Saturday, October 29, 2011

ผอ.เบาะแสลงพื้นที่ปราบขบวนการอั้งยี่(Maesot Terrorist),ซ่องโจร พม่า กะเหรี่ยง ใช้ศาสนาบังหน้าค้ามนุษย์ (บุคคลในขบวนการนี้ไม่รู้กฎหมายไทยจึงคิดว่าไม่ผิดกฎหมาย) ในวัดภาวนานิยมาราม วัดป่าเก่า แม่สอด จ.ตาก และ ชาวฮินดู ก่อสร้างผิดกฎหมายในวัดป่าเก่า แม่สอด

Updated Every Day.

About The Monk  of  Burma [Myanma] and Terrorist on Mae-sot Targ Thailand.


คลิป ตัวอย่าง   19 June 2012  (Sample)


 " มารยาท หญิงพม่า "


http://www.youtube.com/watch?v=Kh1TEQ0nAbg


"  พม่า หัวทิ่ม "




              ขบวนการอั้งยี่ ( Mae sot Terrorist ) , ซ่องโจร พม่า กะเหรี่ยง ใช้ศาสนา บังหน้า  ค้ามนุษย์   บุคคลเหล่านี้อ้างเป็น UN  ถูกส่งมาจากหัวหน้าแก็งค์ในพม่า...เพื่อควบคุมแรงงานพม่า กระเหรี่ยง ทั้ง เถื่อนและไม่เถื่อน โดยมีค่าคุ้มครองที่มาจากแรงงานต่างด้าว ที่เข้ามาทำงานในเขตแผ่นดินไทย....และส่งเงินกลับไปประเทศพม่า....และจ่ายเป็นค่าตอบแทนให้พวกที่อ้างเป็น UN .....งานนี้ไม่รู้เจ้าหน้าที่ของรัฐไทย....ตามไม่ทันหรือรู้เห็นเป็นใจ... เหมือนเงินกู้ที่ให้   ประเทศ พม่ากู้  4,000 ล้านบาท..........รึเปล่า....????  คนไทยส่วนใหญ่สงสัย...? ล่าสุด เมื่อพวกอั้งยี่....ต่อสู้...เรื่องอ้างว่ากลุ่มฯ เบาะแส จะจับพระพม่าไม่ได้ . เพราะพระพม่า...ถูกพิมพ์มือ เป็นผู้ต้องหา...แล้ว.....จึง ไปหลอกใช้    ชาวฮินดูบางส่วน....เป็นเครื่องมือ...เพราะมีการจ่ายเงิน ๓ ล้าน...ในการ..ทำบางสิ่งบางอย่างในเขตที่ดินวัดป่าเก่า...ให้กับใครบางคน.......???       

ตามที่มีข่าว  เมื่อ 27 ตค. 2554 15:30 น. โดย     NBC  ใน 












http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=535998&lang=T&cat

(หมายเหตุ ขณะนี้ NBC    ได้ลบข่าวนี้ออกแล้ว เพราะ NBC มีความรับผิดชอบ รู้ว่าเรื่องไหนจริง เรื่องไหนเท็จ  ถ้ามีสื่ออย่างนี้ บ้านเมืองจะเจริญขึ้น)
พ.ต.ท.เกรียงเดช ชัยบรรณ พนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด จ.ตาก
ด้รับแจ้งจากนายจิรศักดิ์ ศิริพร ผู้ดูแลวัดภาวนานิยมาราม (วัดป่าเก่า) บริเวณถนนสาย ต.แม่สอด - ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมด้วยคณะศรัทธาวัดว่ามีชายฉกรรจ์ประมาณ 7-8 คน พกพาอาวุธปืนเข้าไปในวัด เช่น ปืนลูกซองยาว และปืนพกสั้น ในตอนดึกที่ผ่านมา โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว มีพฤติกรรมเดินไปเดินมาภายในวัด ทำให้พระที่จำอยู่ในวัดไม่กล้าออกจากกุฏิ เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย หลังจากรับแจ้งจึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้ และทำการสืบสวนสอบสวนต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ ภายในวัดดังกล่าว มีความขัดแย้งกันในเรื่องการทอดกฐินตัดหน้าเมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และไม่สามารถหาข้อยุติได้ในหมู่คณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ของ อ.แม่สอด นอกจากนี้คณะศรัทธาวัดไม่พอใจคณะบุคลลกลุ่มหนึ่งจากนอกพื้นที่เข้าไปเกี่ยวข้อง
นางจินดา ประหุประเม ศรัทธาวัดป่าเก่า กล่าวว่า ปกติการทอดกฐินของวัด จะดำเนินการในวันที่ 20 ตุลาคมของทุกปี แต่เมื่อปีนี้มีคณะบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยนำกฐินไปทอดในวันที่ 16 ตุลาคม 2554 ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นมา ซึ่งทำให้ธรรมเนียมปฏิบัติของทางวัดเปลี่ยนแปลงไป และลามไปถึงความแตกแยกที่เกิดขึ้นทั้งในหมู่ของฆราวาส และคณะสงฆ์
นายสามารถ ลอยฟ้า ผวจ.ตาก กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านแล้ว แต่ขอให้ทางคณะสงฆ์ ดำเนินการไปตามหน้าที่ของคณะสงฆ์ ถ้าหาข้อยุติไม่ได้ทางจังหวัดก็จะลงไปดูแล.


(หมายเหตุ  ข่าวนี้ของ NBC ได้ถูกลบออกแล้ว)
------------------------------------------------------------------------------

หนังสือแต่งตั้งให้ผอ.เบาะแสดำเนินการ




ขบวนการ อั้งยี่ (Terrorist) ซ่องโจร  กะเหรี่ยง พม่า ยึดวัดบนผืนแผ่นดินไทย........ค้าแรงงานต่างด้าวโดยอาศัยพระพม่าบังหน้า...? 

เป็นเรื่องที่รุนแรงเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ....
การค้ามนุษย์ ...แรงงานเถื่อนถูกส่งจาก แม่สอด สู่ มหาชัย ระยอง อยุธยา และอีกหลายจังหวัด ตามนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ และภัยพิบัติครั้งนี้
(นำลดตอผุด) เราจะเห็นแรงงานเถื่อนที่เข้าไปอยู่ในเขตต้องห้าม เดินทางกลับพม่า .....เฉพาะวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๔  ด่าน ตม.แม่สอด แจ้งว่า ทำประวัติส่งกลับมากกว่า ๓ พันคน....?


เรื่องนี้มีที่มา คือ เมื่อ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๔


ผอ.เสกสรร เบาะแส ประธานที่ปรึกษาวัดภาวนานิยมาราม(ป่าเก่า)
อ.แม่สอด จ.ตาก  เป็นผู้ดำเนินการล้างความไม่ถูกต้องในวัดนี้
                      
                          ผอ.เสกสรร เบาะแส ได้รับร้องเรียนว่า วัดป่าเก่า แห่งนี้ มีการซ่องสุมผู้คนต่างด้าวชาวพม่าและกะเหรี่ยง เป็นจำนวนหลายร้อยคน เพื่อกดดันการจัดการบริหารวัดไม่ให้เป็นไปตามกฎหมาย.....รักษาการ เจ้าอาวาสตามกฎหมายคือ พระ ดนัย







โดยบุคคลกลุ่มนี้มีแกนนำเป็น ชาวกะเหรี่ยงที่ได้ถือบัตรที่ทางราชการไทยออกให้...และเรียกแรงงานพม่าทั้งเถื่อนและไม่เถื่อนเข้ามาภายในวัดทุกครั้งที่มีการประชุมกิจการของวัดภาวนานิยมารามหรือวัดป่าเก่าแห่งนี้

(เหตุที่เกิดคดีนี้ เพราะนายจิรศักดิ์ หรือจ่อสู่ ไม่ฟังการให้โอกาส จาก ผอ.เบาะแส ที่ให้โอกาส นายจิรศักดิ์ฯ  ไปจัดการให้ทุกคนอยู่ในกรอบของกฎหมาย กรอบของมหาเถระสมาคม พ.ร.บ.สงฆ์ฯ และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับเรื่อง ของชาวพม่า กะเหรี่ยงพวกของนายจิรศักดิ์  ที่มากระทำการต่างๆในวัดภาวนานิยมารามหรือวัดป่าเก่า แม่สอด จ.ตาก  แต่นายจิรศักดิ์ รับปากต่อหน้า เจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะตำบล และรักษาการเจ้าอาวาส เมื่อ ๑๙.๐๐ น. ของวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๔   ซึ่งเป็นวันที่ ผอ.เบาะแส เชิญพระผู้ใหญ่ประชุมครั้งสุดท้าย..... ก่อนลงดาบ)
                     
ส่วนการที่มีการที่มีผู้อ้างว่าหรืออ้างการที่มีกลุ่มชายฉกรรจ์นั้นเป็นเรื่องเท็จเพราะผู้แจ้งเขาคงเข้าใจไปเองว่าเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้และที่สำคัญ นายจิรศักดิ์หรือชื่อ  (นาย จ่อสู่ ) ผู้แจ้งความ เป็นผู้พา กลุ่มฯเบาะแส เดินสำรวจไปรอบวัดภาวนานิยมาราม และแนะนำสถานที่เองพร้อมลูกน้องเขาเอง อีก ๒ คน  สรุปได้ว่านายจิรศักดิ์ หรือ จ่อสู่ คนแจ้งข้างต้น ก็เป็น  1 ในชายฉกรรจ์ในกลุ่ม 7-8 คนที่พกอาวุธเดินไปมารอบวัด    ซึ่งวันนั้นมี  เจ้าหน้าที่ ชรบ. ๓ คน  กลุ่มฯเบาะแส ๒ คน  นายจิรศักดิ์และลูกน้อง อีก ๒ คน รวมเป็น ๘ คน   และการที่มีปัญหาครั้งนี้เป็นเพราะบุคคลต่างด้าวที่กระทำการเป็นอั้งยี่หรือซ่องโจรนั้น  ต้องการให้พระผู้ใหญ่ แต่งตั้งพระสัญชาติพม่า....ของพวกเขา เป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ทั้งๆ  ที่โดยกฎหมายไทยไม่สามารถให้พระต่างด้าวเป็นเจ้าอาวาสได้  

                             ???????????????????????????????




(นี่คือเอกสารปลุกระดม เป็นใบปลิวที่ชาวพม่าแจกไปทั่วตลาดแม่สอด  
 มีคำแปลเป็นภาษาไทยด้านล่าง)

--------------------------------------------
(ภาพข้างบน เอกสารที่มีข้อมูลอันเป็นเท็จ ที่พระดนัย ถูก หมิ่นประมาท จากผู้ที่อ้างว่าเป็น....และการที่มีคำสั่งการแต่งตั้งพระดนัยเป็นรักษาการเจ้าอาวาส ปี ๒๕๔๗ และพระดนัย ไม่เคยแย่งตำแหน่งกับใคร มีแต่ ผู้อื่นที่พยายามแย่งตำแหน่ง ทั้งๆที่เป็น ต่างด้าว กฎหมายไทย ต่างด้าวไม่สามารถเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือเจ้าอาวาสวัดได้ และปราการสำคัญ ผอ.เบาะแส เป็นผู้สั่ง ระงับ ไม่ให้ มีการทอดกฐิน ในวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๔ เพราะ เป็นการทอดกฐิน เป็นครั้งที่ ๒ จะกระทำไม่ได้  ญาติโยม ผู้มาทอดจึงขอเปลี่ยนเป็นการทอดผ้าป่า ผอ.เบาะแส จึงแนะให้นิมนต์พระดนัย ซึ่งเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดภาวนานิยมาราม เป็นประธานรับผ้าป่า จึงจะถูกต้อง ฉะนั้น ข้อความที่ระบุในเอกสารฉบับนี้ที่กล่าวว่าพระดนัย หรือพระรูปนี้ เป็นผู้ทำให้กฐินล่ม จึงไม่เป็นความจริง เป็นการใส่ความพระดนัย) 
(เรามีเอกสารที่เป็นภาษาพม่า ที่มีการออกแจกจ่ายหมิ่นประมาท โดยกลุ่มชาวกะเหรี่ยงและพม่า ไปทั่งแม่สอด  ซึ่งเป็นการใส่ความ พระดนัย ในเรื่องที่ไม่จริง และ พระดนัย มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว คดีอาญาเลขที่ ๑๗๑๔/๒๕๕๔ สถานีตำรวจภูธรแม่สอด จ.ตาก เมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม  ๒๕๕๔  โดยมีผู้ต้องหาคือ บุคคลที่อยู่ในกลุ่มแกนนำต่างด้าวด้วย ตรวจสอบเองว่าคือใคร ...??? )


                       ....แต่พวกเขาพยายามจะเปลี่ยนกฎหมายไทยหรือละเมิดกฎหมายไทย  แผ่นดินไทยอันเป็นที่รักและหวงแหนขอคนไทยผู้รักชาติ เรามีบรรพบุรุษบรรพกษัตริย์ทรงกอบกู้เอกราชชาติสยามมาตั้งแต่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจนถึงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและรักษากันต่อๆมา จวบจนถึงปัจจุบัน..คนไทยที่เป็นคนไทย  ที่ไม่ใช่สัญชาติต่างด้าวย่อมสำนึกในเรื่องนี้ดี   ฉะนั้น สิ่งที่เกิดขึ้น กลุ่มฯเบาะแส คือผู้มีอำนาจเต็มที่ได้รับการแต่งตั้งในการดูแลรักษาวัดภาวนานิยมาราม(วัดป่าเก่า) เต็มรูปแบบของกฎหมาย ไม่ใช่เป็นบุคคลอื่น  ผู้อื่นที่จะอ้างอะไรต่างนั้นไม่มีสิทธิ์  (ดูเอกสารหรือเรื่องราวต่างๆ ได้ใน เฟชบุค facebook ค้นหา ผอ.เสกสรร เบาะแส )  

                     สรุป ปัญหาทุกอย่าง เกิดขึ้นจากกลุ่มต่างด้าว ทั้งที่ได้สัญชาติไทย และต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย ชาวพม่าและชาวกะเหรี่ยง ต้องการฮุบ หรือยึดวัดนี้เป็นกองบัญชาการ เพื่อเป็นที่พักแรงงานเถื่อน เก็บค่าคุ้มครอง ซ่องสุมอาวุธ ผู้คน รวม ๕ วัด ที่อ้างว่าเป็นวัดพม่าในเขตแผ่นดินไทย   ทั้ง ๆที่ เป็น อาณาเขตของประเทศไทย ไม่ใช่ ประเทศพม่า แถมด้วยการมีพวกคนไทย  ขายชาติบางคน อยู่เบื้องหลัง หวังผลประโยชน์  จากสิ่งที่ผิดกฎหมาย อาศัยพระบังหน้า หรือเป็นเครื่องมือ ที่หาเงินง่าย.....รับทำบัตร ๑๐ ปี ใบละ ๓๐,๐๐๐ บาท โดยคนแก่ หัวขาว เมายา....คนไทยที่ขายชาติพวกนี้ ไม่เคยนึกถึงบุญคุณของบรรพบุรุษไทย  ที่เอาเลือดเอาเนื้อแลกไว้ ให้เรามีที่อยู่ตราบเท่าทุกวันนี้ อาจเป็นเพราะพวกเขาเห็นแก่ได้  สิ่งเล็กสิ่งน้อย  แต่เป็นการทำลายความมั่นคงของชาติ 

                    
                   คดีนี้เจ้าของคดี คือ ร.ต.อ.พงศกร.............พงส.  สภ.แม่สอด และ ผู้กำกับ พ.ต.อ.เดชชาติ ผกก. สภ.แม่สอด จ.ตาก ทราบดี และ ผอ.เบาะแส เป็นผู้ปราบต่างด้าวซ่องสุมผู้คนนับหลายร้อย เป็นแก็งค์ อั่งยี่ หรือซ่องโจร งานนี้ บุคคลไหนชอบ แจ้งความเท็จ หรือ เล่าเรื่องเท็จ ...จะได้เห็นว่า แผ่นดินไทย ใครจะเอาไปไม่ได้....และเราเชื่อว่า ข้าราชการของรัฐ.......ไม่โง่พอที่จะเป็นเครื่องมือของต่างด้าวชาวพม่า......เพราะข้าราชการเหล่านี้ รักชาติยิ่งชีพ และดำรงไว้ซึ่ง ชาติ ศาส กษัตริย์.....เหมือน ทีมงาน กลุ่มฯ เบาะแส    http://borsae.net/
หรือ โทร. 6681 404 2002             
           


               
       ........ส่วนนายจิรศักดิ์ (จ่อสู่) ผู้นี้เป็นผู้พา กลุ่มฯเบาะแส พร้อม ชุดเจ้าหน้าที่ของทางราชการ ชรบ. ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก  ซึ่งมาโดยถูกต้อง เดินตรวจสอบความไม่ถูกต้อง และรับคำสั่งจาก ผอ.เบาะแส ในการแก้ไขสิ่งผิดกฎต่างๆ รอบบริเวณวัดภาวนานิยมาราม(วัดป่าเก่า) ซึ่งมีการก่อสร้าง วัตถุทางศาสนาฮินดูโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งทางสำนักพุทธสั่งให้รื้อถอนแล้ว ภายใน ๕ ปี ตั้งแต่ ปี ๒๕๔๗ แต่รักษาการเจ้าอาวาส ถูกขัดขวางจากต่างด้าวชาวกะเหรี่ยงและพม่า ซึ่งเป็นบุคคลที่นายจิรศักดิ์ รู้จักดีมาโดยตลอด และนายจิรศักดิ์ เป็นผู้ให้ข้อมูลว่า มีพระชาวพม่าชื่อพระอธิการ มาตร หรือ พระมหินทะ หรือบันตะ เชื้อชาติกะเหรี่ยง สัญชาติพม่า อยู่ในวัดโดยไม่ถูกกฎหมาย และอ้างตัวเป็นเจ้าอาวาสซึงมีการแต่งตั้งโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ปี ๒๕๓๒ (ตาม พ.ร.บ.สงฆ์ และกฎหมายอื่นๆต่างด้าวไม่สามารถเป็นเจ้าอาวาสได้และที่สำคัญเจ้าอาวาสคือ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้แต่งตั้งก็มีความผิดด้วยฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗)  ซึ่งพระรูปนี้  รักษาการเจ้าอาวาสหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ  ไม่สามารถขอตรวจสอบเอกสารการเป็นพระสงฆ์เอกสารการอยู่ โดยจะมีกองกำลังต่างด้าว เข้ามาต่อต้านทุกครั้ง แม้แต่ เย็น เวลา ๑๗ น.ของวันที่ ๒๕ และ ๒๗ กลุ่มฯเบาะแส นำกำลังตำรวจ สภ.แม่สอด เข้าตรวจสอบ พระรูปนี้ และแรงงานต่างด้าวที่เข้ามายามวิกาลเวลา๒๒.๒๐น.จนถึง ๒๓.๔๕ น. ยังถูกขัดขวาง แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่กล้า ดำเนินการ (เข้าข่าย ม.๑๕๗ กฎหมายอาญา)  ขับไล่ออกจากวัดทั้งที่ ผู้รับมอบอำนาจจากรักษาการเจ้าอาวาส คือ ผอ.เสกสรร เบาะแส ชี้ให้ตรวจสอบ จากการสืบสวนฯ และจากปากของนายจิรศักดิ์ พูดกับผอ.เบาะแส เอง ว่า นายจิรศักดิ์   หรือ จ่อสู่ เป็นลูกต่างด้าวแต่เกิดในไทย พ่อเป็นทหาร เขตพม่า ขอให้รัฐตรวจสอบการเป็น...ตามกฎหมายด้วย...เรื่องนี้ ทาง เบาะแส จะทำเรื่อง ถึงกระทรวงมหาดไทย เพื่อตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
(ผอ.เบาะแส ประชุมพร้อม พระผู้ใหญ่ เจ้าคณะอำเภอแม่สอด เมื่อ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๔ เพื่อให้โอกาสนายจิรศักดิ์เป็นครั้งที่ ๓ เพื่อจัดการคนของตนเองให้อยู่ในกรอบของ กฎหมาย )


 ..............งานนี้...ลูกศิษย์ พระพม่า ทำร้าย พระพม่า....เอง โดยไม่รู้ตัว......การส่งกลับ....ประเทศพม่า รออยู่.... ท่านผู้อ่าน..นี่คือการปกป้องประเทศชาติ คดีเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ คดีทำลายศาสนา ที่มาจาก การที่กลุ่มมาเฟียต่างด้าวชาวพม่าและกะเหรี่ยง เอาพระ แก่  บางรูปที่ใช้ใบสุทธิ ปลอม ที่ออกโดยพระผู้ใหญ่ ในอดีต ฯที่มรณะภาพ  เป็นเครื่องมือ...เอาตำรวจ เป็นเครื่องมือ โดยที่ตำรวจรู้ไม่ทัน เพื่อหาประโยชน์ และ อ้างตนเอง เป็น UN คุมแรงงานเถื่อนตามโรงงาน ชายแดนไทย ๕ อำเภอ กินหัวคิว ที่ทราบลึกขนาดนี้ เพราะ สอบสวนปากคำเอง ต่อหน้าพยาน ลงพื้นที่เอง.....
                 
(พม่า กะเหรี่ยง พวกนี้ ร่วมกับพระบางรูป  เอาตรายาง วัด ภาวนานิยมาราม ประทับในเอกสารกฐิน ทั้งๆ ที่ไม่มีสิทธิ รับทอดกฐินหรือแจกใบรับกฐิน...คดี ปลอมเอกสารเกิดแน่  ผู้ต้องหากี่คน อาจรวมพระด้วย...?  พวกเขาคิดว่า ครอบงำข้าราชการไทยได้ด้วยเงินกระมัง......)

(ผอ.เสกสรร เบาะแส ,เจ้าคณะตำบลฯ ,พระดนัย รักษาการเจ้าอาวาสตามคำสั่งแต่งตั้ง
ที่ถูกกฎหมาย เพราะเป็นพระสัญชาติไทย มิใช่พระต่างด้าว)

( อาคารที่พระกระเหรี่ยงสัญชาติพม่าอาศัยโดยที่รักษาการเจ้าอาวาส หรือ พระดนัย และเจ้าคณะฯ
หรือเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบเอกสารต่างๆได้ เพราะมีแก็งค์ อั้งยี่หรือซ่องโจร
ขัดขวาง แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบางผลัดไม่สามารถดำเนินการได้  )





                  


( เมื่อมีการแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสแล้วตามระเบียบของสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติฉบับนี้  การบริหารงานย่อมชัดเจน จะอ้างการแต่งตั้งเดิมที่มิชอบด้วยกฎหมายเมื่อปี ๒๕๓๒ ไม่ได้ (ตามกฎหมายไทยแต่งตั้งพระต่างด้าวเป็นเจ้าอาวาสไม่ได้) แต่ คนไทย ๒ สัญชาติ ชาวพม่า กะเหรี่ยงที่อยู่ในเขตดินแดนไทย ไม่มีความรู้เรื่องกฎหมาย จึงใช้กฎหมู่ กดดัน พระผู้ใหญ่ ในที่สุด ผอ.เสกสรร เบาะแส จึงได้ปลดแอก  การถูกกดดันของพระรักษาการเจ้าอาวาสและพระผู้ใหญ่ ที่ถูกกดดันมานานนับ ๑๐ ปี )





                 ( รักษาการเจ้าอาวาสและพระผู้ใหญ่ดำเนินการตามกฎหมายแต่ถูกกดดันด้วยกฎหมู่จากพม่าและกะเหรี่ยง ในพื้นที่ ด้วยการเรียกมวลชนมาจำนวน หลักร้อย มากดดันทุกครั้ง และพยายามจะให้พระผู้ใหญ่ทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ.สงฆ์ ๒๕๐๕  รวมทั้งคนสัญชาติไทยที่มี บิดาหรือมารดา เป็น พม่า (ลูกครึ่ง)บางคน  ......พวก เขาคงหลงลืม..ไป คิดว่า ตรงวัดภาวนานิยมาราม นี้ เป็น แผ่นดินพม่า...กระมัง..ถ้าอยากอยู่ พม่า ,ใช้กฎหมู่ แบบ พม่า ก็ เชิญ กลับไปพม่า..อย่าอยู่บนผืนแผ่นดินไทยให้เป็นเสนียดกับบรรพบุรุษไทย)



( โฉนดมีตราครุฑ ที่ตั้ง วัดภาวนานิยมาราม วัดป่าเก่า เป็นเอกสารสิทธิ์
ของประเทศ ไทย ไม่ใช่ ประเทศ พม่า เขาคงเข้าใจ ผิด มีลูกครึ่งบางคน บอกว่า แม่สอด เป็นเขตปกครองพิเศษ ฝันไป...มั้ง....แม่สอด คือ อำเภอ หนึ่งใน จ.ตาก เป็น อาณาเขต ดินแดนประเทศไทย ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญไทย ประชาชนคนไทยทุกคน มีหน้าที่ต้องปกป้องรักษาประเทศ อันเป็นที่หวงแหน ใครไม่ทำถือว่า เนรคุณ แผ่นดินเกิด รวมทั้ง พวกลูกครึ่ง หรือไม่ครึ่ง หรือพ่อแม่เป็นกะเหรี่ยงพม่า (ที่ลักลอบสวมบัตรประชาชนคนตายที่มีข้าราชการชั่วของไทยบางคนร่วมด้วย  หรือพวก..ที่เกิดบนแผ่นดินไทยด้วย )
                    --------------------------------------------------------------------------------


ภาพบรรยากาศในวัดภาวนานิยมาราม (ป่าเก่า)
ช่วงที่เกิดปัญหา จะมีแรงงานต่างด้าว เข้ามาร่วมด้วย


( วันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๔ เวลา ๑๓.๐๐ น. มีชาวบ้านที่เข้ามาในวัดนี้มาจาก ทั้งชาวบ้านในพื้นที่เป็นส่วนน้อยและต่างด้าวที่อยู่ในความดูแลของบุคคลที่อ้างว่า หน่วย UN เข้าหลายร้อยคน ทั้งที่ ไม่ได้มีการเชิญ วันนี้ เป็นวันที่ ผอ.เบาะแส เชิญ ประชุม เฉพาะ ที่อยู่ในวันภาวนาฯเท่านั้น และนิมนต์ พระผู้ใหญ่ พร้อม ตัวแทน นายอำเภอแม่สอด เพื่อมาเป็นที่ปรึกษาเพื่อให้การจัดระเบียบเป็นไปตามกฎหมาย ที่มากันอย่างนี้ จะเรียกว่า อะไร....เขาจะประชุมปรึกษาหารือกิจการของนิติบุคล คือวัด  แต่ที่ไปพากันมาทั้งที่ไม่ได้เชิญ ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ เขาเรียกว่า...อะไร...?  )




(งานที่กลุ่มฯเบาะแส ดำเนินการทุกครั้งจะเป็นการทำให้ทุกฝ่ายรักกันเข้าใจกัน ถึงแม้บางกลุ่ม
อาจมีคนบางคนหวังให้เรื่องรุนแรงขึ้นก็ตาม)









(บางคนในภาพข้างบนนี้ ตอนแรกอ้างเป็น หน่วย UN แต่เมื่อ ผอ.เบาะแส ทำการสอบสวน
ได้ความว่า เป็นผู้ดูแล แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย และมีการเก็บค่าดูแลหรือค่าคุ้มครองโดยมี กองบัญชาการใหญ่อยู่ในประเทศพม่า...แสดงว่าเรื่องแรงงานต่างด้าว นี้เป็นขบวนการค้ามนุษย์..ที่เป็นการทำงานเป็นขบวนการใหญ่ข้ามชาติ...ซึ่ง ตำรวจ ตม.ไทย  หรือ
ข้าราชการไทยบางหน่วย ตามไม่ทัน...ซึ่งไม่อาจรอดพ้นสายตา กลุ่มฯเบาะแส)






นายจีรศักดิ์ ศิริพร (ชื่อพม่า คือ จ่อสู่)ขวามือ พระบ๊ะตาน

( กลุ่มฯเบาะแส ทำงาน โดยใช้ ทฤษฎี การสื่อสาร  Communication Theory ,  ทฤษฎี Maslow   และ  Cognitive Theory )



  • คำว่า การก่อการร้าย (อังกฤษ: Terrorism) เป็นคำที่ยังไม่มีการจำกัดความในกฎหมายอาญาที่มีผล

    ผูกมัดตามกฎหมายและได้รับการยอมรับอย่างสากล การจำกัดความโดยทั่วไปของการก่อการร้ายนั้น

    หมายถึงเพียงพฤติการณ์รุนแรงซึ่งมีเจตนาที่จะก่อให้เกิดความกลั
    ว กระทำการเพื่อจุดประสงค์ทาง

    ศาสนา การเมืองหรืออุดมการณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นการกระทำที่จงใจหรือไม่ใส่ใจต่อความปลอดภัย

    ของผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง (พลเรือน) และกระทำโดยองค์กรที่ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐใด ๆ 
  •  อ้างอิง

    ^ Angus Martyn, The Right of Self-Defence under International Law-the Response to the Terrorist Attacks of 11 September, Australian Law and Bills Digest Group, Parliament of Australia Web Site, 12 February 2002.
    ^ Thalif Deen. POLITICS: U.N. Member States Struggle to Define Terrorism, Inter Press Service, 25 July 2005.



คำว่า  อั่งยี่ หรือซ่องโจร   มาจากพฤติการ ที่ ต่างด้าว มีการเรียกระดมบุคคลทั้ง ต่างด้าวและผู้ที่มีสัญชาติไทย เพื่อกดดัน หรือ ข่มเหงจิตใจให้กระทำบางสิ่งบางอย่าง  โดยผู้มีอำนาจในการปกครองดูแลบริหารงานของวัดภาวนานิยมาราม ไม่ยินยอมหรือเต็มใจ ซึ่งโดยพฤติการ มีการใช้พม่า ซึ่งอ้างเป็น ยูเอ็น(UN) แต่ที่แท้จริงคือ หัวหน้ามาเฟียที่ดูแลแรงงานพม่าในสังกัดซึ่งมีผลประโยชน์ร่วมกับแรงงานต่างด้าวทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ซึ่งหมายถึงการดูแลผู้กระทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ.การค้ามนุษย์
แต่ด้วยเหตุพวกเขาเหล่านี้ไม่รู้กฎหมาย และอ้างว่าแม่สอด เป็นเขตปกครองพิเศษ และอ้างกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งๆที่เป็นเฉพาะเรื่องของผลประโยชน์ของพวกเขาเองกับเจ้าหน้าที่......

อ้างอิง
            ตามประมวลกฎหมายอาญามาตร ๒๐๙  ผู้ใดเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการ  และมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นกระทำผิดฐานเป็นอั่งยี่  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปีและปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท


โปรดรอข้อมูลเพิ่มอีก และ ภาพ เอกสารสำคัญต่างๆประกอบ เรื่องนี้   ................

Updated Every Day.

--------------------------------------------------------

It's  Terrorist . 


+ ใคร....จะถูกแจ้งข้อหา....อั่งยี่ หรือซ่องโจร พวกแกนนำที่มีชื่อหมายเลขโทรศัพท์....ที่ระบุไว้ในเอกสารลายชื่อวันประชุมวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๔ ก่อนที่มีการแจกใบปลิวโจมตีพระ ดนัย ...ในเรื่องเท็จ เป็นภาษาพม่า...ซึ่งเขาพวกนี้มุ่งหวัง ปั่นหัวแรงงานต่างด้าว เพื่อหวังผล...ฮุบ วัด ป่าเก่า  ตามกฎหมู่....ที่เขาวางไว้...แต่สายไปเสียแล้ว  ผอ.เบาะแส รู้ทัน.....Game Over...............????

+ ใคร....(พระพม่า) จะถูกแจ้งข้อหา....ต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง...ถูกส่งฟ้องศาล..จำคุก...เนรเทศ...ส่งกลับ พม่า....??? ติดคุกพม่า ต่อ.........................???  (ปัจจุบัน ส่งอัยการ วันที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๕)

+ ใคร...จะถูกตรวจสอบการได้มาซึ่งบัตรประชาชนไทย ถ้ามีที่มาโดยการปลอม...หรือแจ้งความเท็จ..โดยมีผู้ใหญ่บ้านหรือกำนันหรือข้าราชการบางคน....คุก....รวมกัน....หรืออาจจะตายในคุก.....เพราะ แก่ ๆกันทั้งนั้น...???

+ ใคร...จะทำเอกสารปลอมเพื่ออยู่ในพื้นที่ต่อ.....เราตรวจสอบได้ บัญชีต่างด้าว ไม่ตรงที่แจ้งทางราชการแน่นอน...ตำรวจ ตม.  ตำรวจท้องที่  นายอำเภอ... ทั้ง ๓ หน่วยนี้ รักชาติ  คงไม่ยอมให้   พม่า หรือกะเหรี่ยง หลบหนีเข้าเมือง หลอกใช้ หรือขี่หัว เป็นแน่...???





ขณะนี้ มีผู้เข้าชม บล็อคนี้ จาก 
หลายประเทศ....จำนวนมาก...ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลก...วันละนับ ร้อยรายที่เข้าชม เรื่องวัดภาวนานิยมาราม....วัดป่าเก่า.....(ตามตารางข้างบนนี้)

ล่าสุดคืน วันที่ ๒ พ.ย. ๒๕๕๔  มีโทรอ้างมาจาก ประเทศ อิรัก ขู่  ผอ.เบาะแส ให้หยุด....ไม่รู้ใช้ สมองส่วนไหนคิด....ไปไม่รอดยังปากดี.....? พวกขบวนการ   Terrorist.

ก่อนหน้านี้ ผอ.เบาะแส..ให้โอกาส ๓ ครั้ง นับว่าสุดๆแล้ว ยี่ห้อ ผอ.เบาะแส เคลียร์ไม่ได้....อั้งยี่พม่า คงไม่รู้......?

---------------------------------------------------------

๕ พ.ย.๕๔  ทราบจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจบางนาย  บอกว่า  "พระดนัยถอนคำร้องทุกข์กล่าวโทษคดีหมิ่นประมาทในคดีอาญาที่ ๑๗๑๔/๒๕๕๔  สถานีตำรวจภูธรแม่สอดตากวันที่ ๒๔ ตุลาคม  ๒๕๕๔" โดยมีผู้ต้องหาคือ บุคคลที่อยู่ในกลุ่มแกนนำต่างด้าวด้วย ไม่รู้พระดนัยทำได้ไง......งง..งง  ไปถอนแจ้งความ..... แต่   ปัญหา อยู่ที่ว่าคดีพระพม่าและอั่งยี่ พม่า กะเหรี่ยง   นั้นเป็นคดีที่ผอ.เบาะแสดำเนินคดี......เอง ไม่ได้เกี่ยวกับพระดนัย.......เลย แม้แต่น้อย...อย่า หลง ทาง....อั่งยี่  พม่า....     และประการสำคัญคือ ถ้าพระที่ปฎิบัติ ดี ปฏิบัติชอบ  เหมือนพระเกจิฯไม่มี อันตรายใดจะทำร้ายได้.....???  ไม่ต้องกลัวตาย...แต่ถ้าพระ...กลัวตาย...แสดงว่า....จะอ้างว่า ถ้า ผอ.เบาะแส ไม่อยู่ กลัว อั่งยี่ พม่า จะมาทำร้าย  แสดงว่า  พระรูปนั้น  ต้องมีอะไร.......และเรื่องนี้ เป็น เรื่องขบวนการก่อการร้าย...เป็นเรื่องระดับโลก.....ซึ่ง ผู้ว่าราชการ จ.ตาก  ผบ.ตร. และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในต้องเป็นผู้ดำเนินการ....ไม่ใช่เรื่องของพระสงฆ์.......????   การแจ้งความดำเนินคดีของ ผอ.เบาะแส นั้น ยืนยันชัดเจนว่า  พระอธิการ มาตร   (มา-ตระ)  หรือ มหินทะ หรือ บันตะ  คนคนเดียวกัน   เป็น  ต่างด้าว  .....อยู่ผิดกฎหมาย นับ สิบปี พระผู้ใหญ่ รู้ดี  ผู้ใหญ่ก็รู้ดี...ไม่ดำเนินการ ถือว่าละเว้น.. ม.๑๕๗ กฎหมายอาญา     งานนี้ อั่งยี่ พม่า พยายาม ลอบบี้ พระผู้ใหญ่  และข้าราชการชั่วบางคน......เพื่อหาทาง ให้พระพม่า อยู่ จากผิดกฎหมายเป็นถูกกฎหมาย.....ข้าราชการคนไหน ร่วมมือด้วย ก็ คงซวยทั้งตระกูล  คุก ตอนแก่...เป็นแน่....  อย่า พยายาม, ผอ.เบาะแส  บล็อค ไว้ หมดทุก ทางแล้ว

------------------------------------
๘ พ.ย. ๒๕๕๔  พระดนัย  สึก จากการเป็นพระ.......ไม่รู้เพราะเหตุใด.......สุดยอด....เข้าทาง  ผอ.เบาะแส


พระแรมโบ้  อาจารย์ของพระพม่า ทื่อยู่ผิดกฎหมายซึ่งวันที่ ๒๘ ต.ค.๒๕๕๔    ๙.๐๐ น. จะเข้าไปพูดให้พระพม่ารู้ถึงผลตามกฎหมาย
แต่กลุ่ม อั่งยี่พม่า ไม่ยอมให้เข้า

หลวงพ่อเขมา (ได้เข้าแจ้งความกองปราบหลังจากถูกชาวพม่าไล่ออกจากวัดคืนวันที่ ๔ ม.ค.๒๕๕๕)

(พระดนัย รักษาการเจ้าอาวาส   ปัจจุบัน สึก ไปแล้ว ๗ พ.ย. ๒๕๕๔
ไม่รู้เหตุผลใด ใคร......หรือเปล่า....ถ้าเรื่องปกติไม่น่าสึก......แต่การสึกของพระดนัย ไม่เกี่ยวข้องกับการปราบขบวนการอั่งยี่ แม่สอด ของ ผอ.เบาะแส   เพราะมันคนละเรื่องกัน  แต่ ผู้ใหญ่ที่กดดัน..บางคน ไม่รู้กฎหมายจึงเข้าใจว่า ถ้าพระดนัยไม่อยู่แล้ว ทุกอย่างน่าจะเข้าทางเขา....คิดได้ไง ใช้สมองส่วนไหนคิด.........???)

(เจ้าคณะตำบลฯ  พระครูสุนทรจริยคุณ   มีข่าวลือว่าถูกปลดเพราะเข้ามาจัดการพระผิดกฎหมายโดยร่วมกับนายอำเภอแม่สอด และ ผอ.เบาะแส  ในวัดนี้ แสดงว่า...พระผู้ปฏิบัติดี อยู่ไม่ได้ แต่พระที่มีตำแหน่งแต่ไม่ดีอยู่ได้......ประเทศไทยเปลี่ยนไปแล้ว)

เจ้าคณะอำเภอแม่สอด จ.ตาก

ผอ.เบาะแส ประชุมพระเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล  ๒๗ ต.ค.๒๕๕๔   ณ วัดดอนมูล แม่สอด จ.ตาก


------------------



 ๑๖ พ.ย. ๒๕๕๔ 


 พบ เวบไซต์   ลงข้อมูล เท็จและมีการแจ้งความเท็จ (ฝากร้อยเวร พ.ต.ท.เกรียงเดช ชัยบรรณ ดำเนินการด้วย) เพราะ นายจิรศักดิ์ ฯ หรือจ่อสู่ เป็นผู้ พา ชายฉกรรจ์ ตามที่ข่าวอ้าง  ทั้งที่อ้างว่า  ที่มาคือ  เนชั่นฯ  แต่เขาหารู้ไม่ว่า เนชั่น ลบ ข่าวนี้ ออกแล้ว...หลังจากที่ ผอ.เบาะแส  นำข้อมูลจริง ลงใน Blog  นี้   ก็อย่างว่า....สื่อที่เป็น  Investigative Media  กับสื่อที่ไม่ใช่.....??? ฝากประชาชนผู้มีความรู้    มีวิจารณญาณ แยกแยะความน่าเชื่อถือ.....? และประการสำคัญ วัดป่าเก่าแห่งนี้ ผู้ดูแล คือ ผอ.เบาะแส แต่เพียงผู้เดียวตามเอกสารสำคัญด้านบน และ ผอ.เบาะแส ก็ไม่ได้แต่งตั้งนายจิรศักดิ์ ดูแลแต่อย่างใด....














เวบไซต์ข้างล่างนี้คือเวบฯของ เนชั่นฯ แต่ลบไปแล้ว..งง..?


http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=535998&lang=T&cat=


พ.ต.ท.เกรียงเดช ชัยบรรณ พนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด จ.ตาก
ด้รับแจ้งจากนายจิรศักดิ์ ศิริพร ผู้ดูแลวัดภาวนานิยมาราม (วัดป่าเก่า) บริเวณถนนสาย ต.แม่สอด - ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมด้วยคณะศรัทธาวัดว่ามีชายฉกรรจ์ประมาณ 7-8 คน พกพาอาวุธปืนเข้าไปในวัด เช่น ปืนลูกซองยาว และปืนพกสั้น ในตอนดึกที่ผ่านมา โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว มีพฤติกรรมเดินไปเดินมาภายในวัด ทำให้พระที่จำอยู่ในวัดไม่กล้าออกจากกุฏิ เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย หลังจากรับแจ้งจึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้ และทำการสืบสวนสอบสวนต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ ภายในวัดดังกล่าว มีความขัดแย้งกันในเรื่องการทอดกฐินตัดหน้าเมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และไม่สามารถหาข้อยุติได้ในหมู่คณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ของ อ.แม่สอด นอกจากนี้คณะศรัทธาวัดไม่พอใจคณะบุคลลกลุ่มหนึ่งจากนอกพื้นที่เข้าไปเกี่ยวข้อง
นางจินดา ประหุประเม ศรัทธาวัดป่าเก่า กล่าวว่า ปกติการทอดกฐินของวัด จะดำเนินการในวันที่ 20 ตุลาคมของทุกปี แต่เมื่อปีนี้มีคณะบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยนำกฐินไปทอดในวันที่ 16 ตุลาคม 2554 ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นมา ซึ่งทำให้ธรรมเนียมปฏิบัติของทางวัดเปลี่ยนแปลงไป และลามไปถึงความแตกแยกที่เกิดขึ้นทั้งในหมู่ของฆราวาส และคณะสงฆ์
นายสามารถ ลอยฟ้า ผวจ.ตาก กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านแล้ว แต่ขอให้ทางคณะสงฆ์ ดำเนินการไปตามหน้าที่ของคณะสงฆ์ ถ้าหาข้อยุติไม่ได้ทางจังหวัดก็จะลงไปดูแล

----------------------------------

ข้อเท็จจริง
๑. คนนอกพื้นที่ ที่เขากล่าวหาคือ ผู้สร้างวัดนี้โดยการบริจาคที่ดินไม่รู้ภาษาไทยเรียกว่า "คนนอกหรือคนใน" กันแน่
๒.ปัญหาในคณะสงฆ์คือ  พระผู้ใหญ่ เผลอไปให้โอกาสพระพม่า ทั้งๆที่ กฎหมายไม่อนุญาต เท่ากับว่าการกระทำนั้นเป็นโมฆะ  หรือถือว่าไม่ได้กระทำ หรือไม่ได้ทำนิติกรรมนั่นเอง และพระที่กระทำก็มีความผิด  และพระผู้ใหญ่ที่พลาด มีโอกาสถูกดำเนินคดี การปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗


๓.สร้างเรื่อง เขาคงคิดว่า ผู้รับสาร ไม่มีการศึกษา มั้ง  ไม่รู้ใครผิด ใครถูก มั้ง....ก็อย่างว่า  ที่นี่ แผ่นดินไทย...ใช้ภาษาไทย....พม่า คงไม่รู้ กฎระเบียบ หรือภาษาผู้ดีที่เขาใช้กัน...


ที่สำคัญปัจจุบัน   เมื่อ ๒๗ ต.ค. ๒๕๕๔ เป็นต้นมา  การประชุม คณะสงฆ์ หรือ ผู้ใหญ่ผู้ปกครองในพื้นที่ต่างก็ยินดีและชื่นชมที่ ผอ.เบาะแส ดำเนินการปราบ ขบวนการนี้ ..... เพราะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ....แต่ กลุ่มฯนี้ หารู้ไม่ว่า การที่พวกเขา ต่างดิ้นรนที่จะทำบัตร ๑๐ ปี ให้พระ พม่า  หรือ พาสปอร์ต  นั้น  มันสายไปแล้ว....ข้าราชการคนไหน กล้าทำเท่ากับข้าราชการคนนั้น ขายชาติ...นั่นเอง   คดี ปลอมแปลงเอกสารราชการ  คดี แจ้งข้อความอันเป็นเท็จ คดี ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ   คดีละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ คดีร่วมกันค้ามนุษย์ ตาม พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ ตาม มาเป็น ขบวน  ใคร กล้า ก็ลองดู  แต่ข้าราชการไทย ของ เรา รักชาติ มากกว่าขายชาติแน่นอน...????  โปรดรอดู ติดตามตอนต่อไป....อย่ากระพริบตา...

งานนี้ ดำเนินการเต็มรูปแบบโดย  ผอ.เบาะแส  .....เจ้าของผลงานเด่น คือ

-คดี.... จับแม่ชีเบญจวรรณ  ผู้อ้างเป็นแม่นมเบื้องสูงหาประโยชน์...ถูกจับเมื่อ ๖ ก.ค. ๒๕๔๘ ที่ อยุธยา...รับโทษจำคุก ๓ ปี ทั้ง ๒ ศาล แม่ชีผู้นี้ พระพม่ารูปนี้เคยให้แม่ชีช่วยก่อนแม่ชีฯถูกจับกุมฯ
- ผลงานล้างวัดหลวงพ่อพุทธโสธร  โค่นเจ้าพ่อแปดริ้ว.... ที่มีการโกงกินนับพันล้านบาท
- ปราบ นายพล ป.มาเฟียรถตู้ โดยการเก็บภาษีเข้ารัฐหลักล้านบาท
- ปราบขบวนการ นายพล ป.เจ้าตำหรับบัตร กอ.รมน. ปลอม ใบละ ๑ แสน
- และจับเรือบรรทุกน้ำมันเดินทะเลเถื่อน......ในเขตสมุทรสาคร ประมูลขายทอดตลาดได้ภาษีเข้ารัฐหลายล้านบาท  ณ ศุลกากรแม่กลอง




เครื่องหมายความสามารถนักทำลายใต้น้ำจู่โจมฯ [SEAL]  เป็นเครื่องหมายสำคัญอันดับล่าสุดที่
ผอ.เบาะแส ได้รับ  จาก  ผู้บัญชาการทหารเรือ
ข้อมูลเกี่ยวกับนักทำลายใต้น้ำจู่โจม http://www.engrdept.com/tahanchangling/cuangmay/chalam.htm 


ล่าสุด จากการสืบสวนทราบว่า....

๑.นาย อุ-ทิด ...ประกาศว่าตนเอง..เป็นลูกเชื้อสายพม่า...โดยมีมารดาเป็นชาวพม่า...
๒.นายจิรศักดิ์ หรือจ่อสู่ (ผู้แจ้งความเท็จ) มีบิดาเป็นทหารพม่า....

แต่  ผอ.เบาะแส  บิดาและมารดา เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย  ปู่ย่า-ตายาย ก็เชื้อชาติไทย-สัญชาติไทย และเป็นบรรพบุรุษที่ปกป้องชาติไทย .... ให้รอดพ้นจาก   ชาติพันธ์ที่รังแกคนไท...แต่โบราณ ที่มันเอาหวายร้อยเอ็นข้อเท้า  เชลยคนไท.........ในอดีต...???

๑๖ พ.ย. ๒๕๕๔  

มีคำพูดดีๆ  จากผู้ใหญ่ ใน จ.ตาก   เรียก  นายหัวขาวว่า  " ไอ้ผีบ้า "  เพราะ เขาผู้นี้ไม่ยอมรับในกฎหมายหรือกฎของสังคม   คงต้องไปอยู่ต่างประเทศ....โดยการเนรเทศ.......

17 november  2011

ผอ.เบาะแส ทดสอบสนามยิงปืน ฐานทัพเรือสัตหีบ
 กลุ่มฯเบาะแส มีความรู้สึกดีๆ กับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เห็นคุณค่าในการทำหน้าที่ ของ ผอ.เบาะแส เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ เต็มที่เลยท่าน  กลุ่มฯเบาะแส ปกป้องท่านได้ ถ้าผู้ใหญ่รังแก.......??? 
        นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เมื่อท่านทำถูกต้องไม่ต้องเกรงสิ่งใด...ผู้ใหญ่คนไหน หน้าแหลมเข้ามาจะทำให้ผิดเป็นถูก...เจอกัน....มวยคนละชั้น....???  
ขบวนการ  อั่งยี่..จะอยู่ในแผ่นดินไท...ไม่ได้.....โดยเฉพาะ ไอ้..อั่งยี่ พม่า..เราไม่มีที่ว่างให้ยืน...หรือ นอน ตาย..?


18 november 2011 



ผอ.เบาะแส นำจับ รถ สามล้อ แดง ที่ขับบริการลูกค้าโดยชาวพม่า...ที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน(work-permit) ซึ่งอาชีพขับสามล้อรับจ้างหรือมอเตอร์ไซด์รับจ้างเป็นอาชีพสงวนไว้ให้สำหรับคนไทยเท่านั้น  ต้องห้ามไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติหรือต่างด้าวทำ......ซึ่งมีการจับกุมเมื่อวันที่ ๒๕ ต.ค.๒๕๕๔ ตามรูป  มีรถถูกยึด ๕ คัน ผู้ต้องหา ๒ คน  ดำเนินคดี  ส่งกลับ พม่า แต่วันนี้ มีสายรายงานว่า กลับมาขับรถ.....รับจ้าง   เสื้อ    วิน  ของคนไทย....จัดให้ตัวละ ๖ พันบาท  .........คิดได้ไง......ใครพบเห็น พม่า ๒ คนนี้ ขับรถ......รับจ้าง ที่    วินไหน แจ้ง สภ.แม่สอด ด้วย.........และถ้าพบเห็น ส่วย ฮั้ว คอรัปชั่น นักข่าวรีดไถ และมาเฟีย แจ้ง ผอ.เบาะแส  อย่าปล่อยให้   คนชั่วลอยนวล

......พระพม่า..ที่เป็นหัวหน้าแก็งค์ อั่งยี่..ที่วัดป่าเก่า.....มีลูกศิษย์  พยายาม ให้เหตุผลว่า  มาอยู่ตั้งแต่ปี ๒๕๑๙  แล้ว  หลบหนีภัย...สงครามการเมือง มาอยู่....
แสดงว่า ตั้งแต่ ปี ๒๕๑๙   ข้าราชการไทย..ที่มีหน้าที่  เกี่ยวกับความมั่นคง...หรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ...ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ละซิ....คุก อีกแล้ว.....ไอ้พวกระยำ....โยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ฯ อีกแล้ว...ทำผิดเอง ทำชั่วเอง...ไม่พอจะพาเจ้าหน้าที่ฯ ที่รักชาติยิ่งชีพและทำความดีมาตลอดซวยไปด้วย....เฮ้อ...?  ถ้าหนีภัยสงครามจริง จะต้องมีรายชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อของรัฐบาลไทย  และต้องมีการส่งต่อไปประเทศที่สาม มิใช่..หมกตัว....รอเป็นเจ้าอาวาสในวัดไทยที่ใช้กฎหมายไทย บังอาจใช้มวลชนแรงงานต่างด้าว พม่า... ใช้กฎหมู่ บีบกดดัน การใช้กฎหมาย.. พยายามใช้มวลชนล้อมโรงพัก แม่สอด..ล้อม ตำรวจ ที่มาขับไล่แรงงานต่างด้าวในวัดป่าเก่า วันที่ ๒๕ และ ๒๗ ต.ค. ๒๕๕๔ กลางคืน ....(ผอ.เบาะแส เป็นผู้แจ้ง ผ่านทาง ๑๙๑ แม่สอด และ หมายเลขโรงพักแม่สอด) ไม่รู้ใช้สมองส่วนไหนคิด... และไอ้พวกชอบอ้าง  เป็น ยู เอ็น... อ้างเป็น  องค์...เถื่อน... โดยพยายามบอกกล่าวคนทั่วไปว่าเป็นวัดพม่า....ที่นี่แผ่นดินไทย....น๊ะจะบอกให้....งุบงิบทำ...รวมทั้งพระผู้ใหญ่บางรูป  ถูกกลุ่มลูกศิษย์พระพม่า พาไปเที่ยวอินเดีย หลายรอบฟรี ...ต้องถาม  คนต่างด้าวชื่อ   โนรีโนรา....หรือ  ..ราบู  และ ไอ้ผีบ้า...  (ฉายาที่ผู้ใหญ่ในจ.ตาก ตั้งชื่อให้) ว่า เงินที่ใครบางคนที่คุณรู้จัก...มีการโกง มาจากรัฐบาลประเทศพม่า (กระทรวงคลังฯ)  อยู่ที่ไหน  ใครนำมาสร้างอาคารบางส่วนในวัดนี้เพื่อเป็นที่ซ่องสุม ชาวพม่า..เพื่อการอื่นหรือเปล่า(พฤติการอั่งยี่) ใคร...ใช้เงินที่โกงมานั้นบำเรอใครบ้าง  ซื้อความสะดวก เจ้าหน้าที่คนไหน...บ้าง   มี  ตม.บางคนที่ตนเองรู้จัก เกี่ยวข้องไม๊...?   เจ้าหน้าที่ปกครองรุ่นเก่าๆบางคน  เคยมาจับกี่ครั้ง  และปล่อยเพราะอะไร...  ใครจ่ายเงินให้ใคร...พระพม่าถูกจับ ๔ ครั้ง 
 ใครเสีย...อะไร...ไปเท่าไหร่ ......ใครรับเงินบ้าง....ข้อมูลทั้งหมดรอการเปิดเผย...หากเจ้าหน้าที่ของรัฐทำหน้าที่.....ไม่ครบถ้วน  คนเก่าๆ  อาจซวย  เพราะเรื่องเก่าๆ.....????  หญิงต่างด้าว..บางคน ถูกดำเนินคดีข้อหา  วีซ่า ปลอม...คดีถึงไหน แล้ว ใครเจ้าของคดี  คดี...ในจังหวัดตากนี่เอง.....ตำรวจ...ท่านใด  จากที่ใดหรือย้ายไปไหน... เป็นโจทก์หรือเปล่า...คดีถึงไหน...

--------------------------------------------

19 november  2011

              ขบวนการอั่งยี่ ( Mae sot Terrorist ) , ซ่องโจร พม่า กะเหรี่ยง ใช้ศาสนา บังหน้า  ค้ามนุษย์   บุคคลเหล่านี้อ้างเป็น UN  ถูกส่งมาจากหัวหน้าแก็งค์ในพม่า...เพื่อควบคุมแรงงานพม่า กระเหรี่ยง ทั้ง เถื่อนและไม่เถื่อน โดยมีค่าคุ้มครองที่มาจากแรงงานต่างด้าว ที่เข้ามาทำงานในเขตแผ่นดินไทย....และส่งเงินกลับไปประเทศพม่า....และจ่ายเป็นค่าตอบแทนให้พวกที่อ้างเป็น UN .....งานนี้ไม่รู้เจ้าหน้าที่ของรัฐไทย....ตามไม่ทันหรือรู้เห็นเป็นใจ... เหมือนเงินกู้ที่ให้   ประเทศ พม่ากู้  4,000 ล้านบาท..........รึเปล่า....????  คนไทยส่วนใหญ่สงสัย...?       (บุคคลในขบวนการนี้ไม่รู้กฎหมายไทย........จึงคิดว่าไม่ผิดกฎหมาย)

(เบาะแส นำจับแรงงานต่างด้าว พม่า ๒ คน ทำอาชีพ ต้องห้ามซึ่งสงวนไว้สำหรับคนไทย)






























พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ฯ   ๒๕๕๑

ข้อมูลเต็มดูในเวบไซต์นี้  

http://www.thailandlawyercenter.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538974579&Ntype=19

 พ.ร.บ. ค้ามนุษย์  บางส่วน..........


 

บททั่วไป
                       
มาตรา ๖ ผู้ใดเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้
(๑) เป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งบุคคลใด โดยข่มขู่ ใช้กำลังบังคับ ลักพาตัว ฉ้อฉล หลอกลวง ใช้อำนาจโดยมิชอบ หรือโดยให้เงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่นแก่ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลบุคคลนั้นเพื่อให้ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลให้ความยินยอมแก่ผู้กระทำความผิดในการแสวงหาประโยชน์จากบุคคลที่ตนดูแล หรือ
(๒) เป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขังจัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็กผู้นั้นกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์
มาตรา ๗ ผู้ใดกระทำการดังต่อไปนี้ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์
(๑) สนับสนุนการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์
(๒) อุปการะโดยให้ทรัพย์สิน จัดหาที่ประชุมหรือที่พำนักให้แก่ผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์
(๓) ช่วยเหลือด้วยประการใดเพื่อให้ผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์พ้นจากการถูกจับกุม
(๔) เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์เพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ถูกลงโทษ
(๕) ชักชวน ชี้แนะ หรือติดต่อบุคคลให้เข้าเป็นสมาชิกขององค์กรอาชญากรรมเพื่อประโยชน์ในการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์
มาตรา ๘ ผู้ใดตระเตรียมเพื่อกระทำความผิดตามมาตรา ๖ ต้องระวางโทษหนึ่งในสามของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
มาตรา ๙ ผู้ใดสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดตามมาตรา ๖ ต้องระวางโทษไม่เกินกึ่งหนึ่งของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
ถ้าผู้ที่สมคบกันกระทำความผิดคนหนึ่งคนใดได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบกันผู้ร่วมสมคบด้วยกันทุกคนต้องระวางโทษตามที่ได้บัญญัติไว้สำหรับความผิดนั้นอีกกระทงหนึ่งด้วย
ในกรณีที่ความผิดได้กระทำถึงขั้นลงมือกระทำความผิด แต่เนื่องจากการเข้าขัดขวางของผู้สมคบทำให้การกระทำนั้นกระทำไปไม่ตลอด หรือกระทำไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล ผู้สมคบที่กระทำการขัดขวางนั้นต้องรับโทษตามที่กำหนดไว้ในวรรคหนึ่ง
ถ้าผู้กระทำความผิดตามวรรคหนึ่งกลับใจให้ความจริงแห่งการสมคบต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อนที่จะมีการกระทำความผิดตามที่ได้มีการสมคบกัน ศาลจะไม่ลงโทษหรือลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้
มาตรา ๑๐ ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา ๖ ได้กระทำโดยร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปหรือโดยสมาชิกขององค์กรอาชญากรรม ต้องระวางโทษหนักกว่าโทษที่กฎหมายบัญญัติไว้กึ่งหนึ่ง
ในกรณีที่สมาชิกขององค์กรอาชญากรรมได้กระทำความผิดตามมาตรา ๖ สมาชิกขององค์กรอาชญากรรมทุกคนที่เป็นสมาชิกอยู่ในขณะที่กระทำความผิด และรู้เห็นหรือยินยอมกับการกระทำความผิดดังกล่าว ต้องระวางโทษตามที่บัญญัติไว้สำหรับความผิดนั้นแม้จะมิได้เป็นผู้กระทำความผิดนั้นเอง
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งได้กระทำเพื่อให้ผู้เสียหายที่ถูกพาเข้ามาหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรตกอยู่ในอำนาจของผู้อื่นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ต้องระวางโทษเป็นสองเท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
มาตรา ๑๑ ผู้ใดกระทำความผิดตามมาตรา ๖ นอกราชอาณาจักร ผู้นั้นจะต้องรับโทษในราชอาณาจักรตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ โดยให้นำมาตรา ๑๐ แห่งประมวลกฎหมายอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม
มาตรา ๑๒ ผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ โดยแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจหน้าที่กระทำการนั้น ต้องระวางโทษเป็นสองเท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
มาตรา ๑๓ ผู้ใดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่นผู้บริหารท้องถิ่น ข้าราชการ พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พนักงานองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ กรรมการหรือผู้บริหารหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ เจ้าพนักงาน หรือกรรมการองค์กรต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษเป็นสองเท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
กรรมการ กรรมการ ปกค. อนุกรรมการ สมาชิกของคณะทำงาน และพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้ใดกระทำความผิดใดตามพระราชบัญญัตินี้เสียเอง ต้องระวางโทษเป็นสามเท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
มาตรา ๑๔ ให้ความผิดตามพระราชบัญญัตินี้เป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒


(ต่างด้าว ไม่รู้กฎหมาย จึง เข้าใจว่า ไม่ผิดกฎหมายไทย)

20 November 2011 

พวกขบวนการอั่งยี่พม่า....... ยังไม่รู้ตัว  ปล่อยข่าวหาว่า  หลวงพ่อ อีกรูป ในวัดที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ..... เป็นผู้ค้ามนุษย์ ...จึงมีรถยนต์นั่ง.....ไอ้พวกไม่รู้กฎหมาย..ใช้แต่กฎหมู่  แถมยังโง่....อีก  ไม่รู้สมองทำด้วยอะไร.........เฮ้อ  คนไม่มีการศึกษาก็เช่นนี้.................ถ้าคนเราผิด   แล้วรู้จักสำนึกผิด    ใครๆ ก็ให้อภัย....แต่ไอ้พวกนี้  ไม่รู้จักสำนึกผิด...ทั้งที่รู้ว่าเสียเปรียบ.......???   มีคนชื่อ    จ.  เรียกอดีต พระ....(ไม่รู้รูปไหน)  ไปขู่ว่าจะเก็บ...โดยให้ไปถอนแจ้งความ.......(อาจเป็นไปได้)    และบอกจะฟ้องกลับ    ฟ้องยมพบาลมั้ง.....ว่าตนเองผิด.....ในแง่กฎหมาย...ไม่มีใคร  จะไปฟ้องคดี...อะไร..กับพระรูปไหน หรือใครๆ หรือ อดีตพระดนัย...ได้  ไม่ว่าข้อหาใด  เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทุกเรื่อง เป็นเรื่องจริง.....(โปรดศึกษากฎหมายอาญา และ ป.วิอาญา ประกอบ)

25 November 2011

นาย จ่อสู่ หรือจิรศักดิ์ ศิริพร   โทรศัพท์ หา ผอ.เบาะแส ขอโทษและแจ้งว่า ถอนตัวจากกลุ่ม ที่ผอ.เบาะแส ปราบ เนื่องจาก เตือนพรรคพวกแล้วไม่ฟัง...........นัดพบ ผอ.เบาะแส วันที่ ๒๖ พ.ย. ๒๕๕๔ ....ให้ ผอ.เบาะแส ช่วยเหลือ เด็ก ต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ แม่สอด และใกล้เคียง ถูก ขบวนการค้ามนุษย์ จับให้ขอทาน........เป็นธุรกิจ..ผิด พ.ร.บ. ค้ามนุษย์ ฯ   นับว่า นายจิรศักดิ์ เป็นคนที่ กระทำความดี ปกป้องสังคม อีกคนหนึ่งที่ออกตัวช่วยเหลือ เด็กที่จะเป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า.....อย่างนี้  เบาะแส ขอปรบมือให้ ที่รู้จักกลับตัวกลับใจ....ทำดีเพื่อแผ่นดิน  ผอ.เบาะแส จึงได้รับรู้จากปาก นายจ่อสู่ว่า มารดาเป็นคนไทย  และ บิดา เป็นทหารพม่...แต่ก็รักแผ่นดินไทย........นี่สิ  คน..........???

ช่วง ๑๖ น.  ผอ.เบาะแส ยื่น หนังสือ ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ตาก และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ตาก ให้ดำเนินการตามกฎหมายกับ พระพม่า ที่หลบหนีเข้าเมือง และขบวนการอั่งยี่ แม่สอด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๐๙ และขบวนการค้ามนุษย์ ตาม พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ ฯ และคดี อันเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ เพราะพวกนี้ กระทำการที่เป็นภัยต่อสังคมและประเทศชาติ ท่านทราบหรือไม่...ขนาดเจ้าหน้าที่ตำรวจฯที่มา คืนวันที่ ๒๕ และ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๔ เวลาประมาณ ๒๒ น.ยังต้องหนีทั้งๆที่   กลุ่มฯเบาะแส ที่ลงมาปราบ ขบวนการนี้อยู่ในภาวะคับขัน...แสดงให้เห็นว่า  ขบวนการอั่งยี่ มีอำนาจมากกว่า ตำรวจ....???  แต่ ผกก.เดชชาติ.. , รอง ผกก.สุพจน์ ,ร.ต.อ.พงษกร  ฝ่ายสอบสวน    ท่าน ร่วมมือด้วยดีมาก...... และต้องขอขอบคุณ คุณสมศักดิ์  สะมะโน  สำนักพุทธฯจังหวัดตาก....นายอำเภอปรีชา...นายอำเภอแม่สอด....และทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือและร่วมกันจัดการในครั้งนี้...เพื่อแผ่นดินไทย...จะได้สูงขึ้น.........ติดตามตอนต่อไป  (รูปการยื่น หนังสือ อยู่ใน  Facebook  ผอ.เสกสรร เบะแส)

26 November 2011
ผอ.เบาะแส เข้ากราบนมัสการพระครูบาสาย แห่งวัดท่าไม้แดง  เจ้าคณะจังหวัด ตาก เวลา ๒๐.๓๐ น. - ๒๒.๓๐ น. เพื่อปรึกษา ขอคำชี้แนะ ในการดำเนินการตามกฎหมาย ในครั้งนี้ กับ ขบวนการ เอาพระพม่า บังหน้า ในการ กระทำผิดกฎหมาย...งานนี้ผอ.เบาะแส...ได้รับ....หลายๆสิ่งหลายอย่าง...ซึ่งทำให้ ผอ.เบาะแส  เกิดความรู้สึกว่า ยังมีพระ..สงฆ์ ที่ รักชาติ บ้านเมือง  มีความคิด ความรับผิดชอบ...หรือเป็นแบบอย่างในแนวคิดที่หามิได้อีกแล้ว ในวงการ สงฆ์  ซึ่งความคิด ส่วนใหญ่ ล้วน ตรงกับ การทำงาน ของ ผอ.เบาะแส ....จึงเป็นสิ่งที่น่า พอใจ  เพราะ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครอง หรือ ฝ่ายคณะสงฆ์  มีความคิด ตรงกัน กับ ผอ.เบาะแส.............แล้วอะไรจะเกิดขึ้น โปรดติดตามต่อไป.....

27 November 2011

นาย จ่อสู่ เข้าพบ ผอ.เบาะแส ที่ร้านกระเพาะปลาริมเมย ประมาณ ๑๖.๐๐ น. .........

28 November  2011
ผอ.เบาะแส ยื่นหนังสือถึง ผบก.ฉก.ร.๔ , ผบ.ตชด. 346 , ผกก.ตม.แม่สอด  ให้ร่วมดำเนินการจับกุม พระพม่า เข้าเมืองผิดกฎหมาย และ อยู่ ในวัดโดยผิดกฎหมาย  ตามคดีอาญาเลขที่ ๑๘๑๗/๒๕๕๔   ร.ต.อ.พงศกร พนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด เจ้าของคดี... ซึ่งสรุปสำนวนเรียบร้อยแล้ว



ผอ.เบาะแส ยื่นหนังสือถึง ผบ.ร้อย ตชด.๓๔๖ ดำเนินการ

ผอ.เบาะแส ยื่น หนังสือ ถึง ผบ.ฉก.ร.๔ ดำเนินการ 


















29 November 2011
พระมหินทะ เข้าโรงพัก แม่สอด เพราะมีปัญหากับพระเขมา...เรื่อง ปรับปรุงพื้นที่ ของวัด ป่าเก่านี้   โดยเข้าพบ พ.ต.ท.เกรียงเดช (สงสัยว่าหมูขึ้นเขียงหรือเปล่า)ใน สภ.แม่สอด ย้ำใน ที่ทำการ สภ.แม่สอด   ผอ.เบาะแส ทราบเรื่อง จะบอกโดยตรงกับ พ.ต.ท.เกรียงเดช ฯ แต่กลับไม่รับสายโทรศัพท์   จึงแจ้ง ผ่าน ดต.อุดม เวลา ประมาณ ๑๖.๐๐ น.ให้จับกุม   พระพม่า  อันเป็นเหตุซึ่งหน้าที่มีความผิดชัดแจ้ง ดต.อุดม แจ้งกลับมาว่า รายงานให้ พ.ต.ท.เกรียงเดช รับทราบแล้ว   แต่ พ.ต.ท. เกรียงเดช  ชัยบรรณ  ไม่จับกุม    ต่อมาทราบว่า ตร.ได้ปล่อยพระมหินทะ ผู้ต้องหาคดี ของ ร.ต.อ.พงศกร สภ.เดียวกัน  ไปใน เวลาประมาณ ๑๖.๓๐ น.   (ม.๑๕๗ หรือไม่)  สอบพยาน ดต.อุดมฯได้
ต่อมา  ร.ต.อ.พงศกร    ได้ เรียกตัวพระพม่า โดยพามาพิมพ์ลายนิ้วมือเป็นผู้ต้องหา คดีจึงเสร็จสิ้น รออัยการฯ สึกและนำตัวส่งฟ้องศาล.....และส่งกลับประเทศพม่า.....ต่อไป

ต้องขอขอบคุณ ร.ต.อ.พงศกร เป็นอย่างมาก ที่กระทำหน้าที่โดยสุจริต  นุ่มนวล เหมือนที่ ผอ.เบาะแส ต้องการแต่แรก.....เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง....รวมทั้ง พ.ต.อ.เดชชาติ  ผกก.แม่สอด  ที่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่สูงมาก.......ขอบคุณครับ..

กลุ่มฯเบาะแส  ขอฝากชาวพม่า....ที่ศึกษาอยู่ในต่างประเทศ...ทั้ง ประเทศ อิรัก รัสเซีย อเมริกา ออสเตรเลีย ฯลฯ โปรด บอกให้พระมหินทะ ..... ให้ทราบความจริงด้วยว่า .......  คดีนี้ พระพม่า จะต้องสึกและถูกส่งตัวกลับพม่า......อย่าเชื่อผู้ที่กำลังหลอกลวง เพื่อ ตบทรัพย์  ที่อ้างว่าไม่มีอะไร เคลียร์ได้ หรือ อยู่ได้ หรือ ชนะคดีแน่นอน......โดยทุกท่าน สามารถ ศึกษาข้อมูลคดีนี้ ได้ที่ สภาทนายความฯ หรือ สำนักงานอัยการ ทั่วประเทศ หรือ ตรวจคนเข้าเมืองทุกด่าน   เพราะความจริงมันเป็นไปไม่ได้.....ไม่มีคดีไหนที่ผอ.เบาะแส ดำเนินการแล้วไม่จบหรือแพ้  เพราะทุกสิ่งทุกอย่าง กลุ่มฯเบาะแส กระทำการภายใต้กฎหมายและกระทำในสิ่งที่ถูก....ต้องเท่านั้น  และขอยืนยันว่า   " กฎหมายไทยศักดิ์สิทธิ์  แน่นอนครับ......โดยเฉพาะคนทำงาน เช่น ผอ.เบาะแส , พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ,พนักงานอัยการ  และ ศาล..."

8 December 2011
ตร.สภ.แม่สอด  เข้าสอบปากคำ เจ้าคณะตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จ.ตาก เรื่องพระเขมา.....ที่ถูกแจ้งข้องหา จากฝ่ายพระพม่า....เจ้าคณะตำบลยันว่า พระเขมา.....มีสิทธิ์ทำได้เรื่องการพัฒนาปรับปรุงวัด......ไม่มีความผิด......และถ้ามีอะไรให้สอบถาม  ผอ.เบาะแส เพราะเรื่องทางโลก มอบหมายให้ ผอ.เบาะแส ดำเนินการ หมดแล้ว...และ ตร.ได้ขอเบอร์โทร...ผอ.เบาะแส ไป.......กรรมของคนแจ้งความ...งานนี้...........แจ้งความเท็จ เมื่อ ๒๙ พ.ย. ๒๕๕๔   ฝากผู้รับแจ้งดำเนินคดีกลับด้วย....????


[ Game Over ]  ปิดฉาก พระพม่า มหินทะ  บ๊ะตาน หรือ มาตร  แห่งวัดป่าเก่า แม่สอด จ.ตาก  ซึ่งถูกเป็นเครื่องมือหาประโยชน์ของมวลชน กฎหมู่ แรงงานต่างด้าว   ด้วยการถูกพิมพ์มือเป็นผู้ต้องหา และต้องสึก ส่งกลับประเทศพม่า...........ในเวลาอีกไม่นาน (Comming Soon)
คงเหลือแต่ คดีอั่งยี่ ที่จะมอบให้สำหรับผู้ที่ใช้กฎหมู่ ต้อต้านการปฎิบัติหน้าที่ ของกลุ่มฯเบาะแส ในการจัดการความเป็นระเบียบเรียบร้อย ภายในวัดภาวนานิยมาราม (วัดป่าเก่า).........................

19 December 2011

ถ้าหาก บริวารของ พระ มหินทะ....... ไม่หยุดกระทำผิด  เราจะ เอาเรื่อง พระพม่า กระทำผิดกฎหมายหลบหนีเข้าเมืองอาศัยอยู่โดยผิดกฎหมาย และ ขบวนการก่อการร้าย รวมทั้งเรื่อง ที่มีชาวพม่า สูงอายุบางคน  นำเงินจากกระทรวงการคลังของประเทศพม่าหนีมาอยู่ที่วัดป่าเก่า แห่งนี้ จำนวนมหาศาล.....และใช้เงินก้อนนี้สร้างอำนาจ โดยกลุ่มฯเบาะแส จะส่งเรื่องทั้งหมดให้ สถานทูตพม่า Embassy of Myanmar in Thailand )  ในประเทศไทย และส่งให้ รัฐบาลประเทศพม่า  (Myanma Government) จัดการตามกฎหมายประเทศพม่าต่อ......ฉะนั้น  คนรอบข้างพระพม่า ยิ่งดิ้น  เท่ากับเป็นการทำร้าย พระพม่า.........?
ล่าสุด ทราบ ว่า พระพม่า มีการมอบอำนาจ ให้  คนไทยที่มีบัตร บางคนไปแจ้งความ หาว่า ผอ.เบาะแส บุรุก   คนไปแจ้งช่าง ไม่รู้กฎหมายซะเลย...พระพม่า ไม่รู้ภาษาไทย ไม่รู้กฎหมายไทย การมอบอำนาจสมบูรณ์หรือไม่  กฎหมายอาญาเกี่ยวกับเรื่อง การบุกรุก นั้นไม่ได้เข้าข่ายในการแจ้งความดำเนินคดี กับผอ.เบาะแส   ไม่รู้ใครบางคน  โง่...อวดฉลาด  การเข้าวัด ภาวนานิยมาราม  ผอ.เบาะแส มาตามอำนาจที่มีตามกฎหมาย ถูกเชิญให้มาปราบ ขบวนการ ทำให้วัดนี้มีปัญหา จากการใช้มวลชน กดดัน การบริหารจัดการในวัด   โดย ผอ.เบาะแส ให้จัดประชุมในวันนี้ โดย ผอ.เบาะแส เป็นประธานที่ประชุม   และนายอุทิศ  ก็ประกาศเชิญผอ.เบาะแส  เข้า อาคารกุฏิ วัดนี้ที่มีพระพม่า อาศัยอยู่โดยผิดกฎหมาย วัดนี้ โฉนด ชื่อวัดภาวนานิยมาราม ขณะนั้น พระดนัย เป็นรักษาการเจ้าอาวาส พระดนัยเป็นผู้เชิญและมอบอำนาจให้ผอ.เบาะแส จัดการ รวมทั้งเจ้าคณะตำบลด้วย หนังสือแต่งตั้งพระพม่า ปี ๓๒ นั้นไม่ถูกต้องตามกฎหมายจึง เป็นโมฆะ  ผู้แต่งตั้ง ก็มีความผิด เนื่องจากในกฎหมายไม่สามารถแต่งตั้งต่างด้าวเป็นรักษาการเจ้าอาวาสได้ เพราะตำแหน่งนี้ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามกฎหมายไทย ต่างด้าว ไม่สามารถเป็นได้ ....เฮ้อ   ....จริง ๆ        แจ้งความเท็จ อีกแล้ว  ไม่รู้ ผอ.เบาะแส จะเอาคดีไหน มาเล่น ก่อน... พวกนี้เอาคนโง่ๆ  มาเป็นกุนซือ...เหยื่อ ถูกต้ม ตุ๋น จนเปี่อยแล้ว.....แขนเปื่อยกินแขน ขาเปื่อยกินขา....นี่คือคำพูดของ บุคคลเชื้อสายพม่าที่ เข้าใจว่า อะไร คืออะไร  น่าสงสาร พระพม่า....

นี่คือกฎหมาย ....ที่พระพม่า ควร ศึกษา ทั้งๆ อ่านภาษาไทยไม่ได้.....?.

หมวด 8 ความผิดฐานบุกรุก

มาตรา 362 ผู้ใดเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเพื่อถือการ ครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือเข้าไป กระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ของเขาโดยปกติสุข ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับ ไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 363 ผู้ใดเพื่อถือเอาอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเป็นของตน หรือของบุคคลที่สาม ยักย้ายหรือทำลายเครื่องหมายเขตแห่ง อสังหาริมทรัพย์นั้นทั้งหมดหรือแต่บางส่วน ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 364 ผู้ใดโดยไม่มีเหตุอันสมควรเข้าไป หรือซ่อนตัวอยู่ใน เคหสถาน อาคารเก็บรักษาทรัพย์หรือสำนักงานในความครอบครอง ของผู้อื่น หรือไม่ยอมออกไปจากสถานที่เช่นว่านั้น เมื่อผู้มีสิทธิที่จะ ห้ามมิให้เข้าไปได้ไล่ให้ออก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือ ปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 365 ถ้าการกระทำความผิดตาม มาตรา 362 มาตรา 363 หรือ มาตรา 364 ได้กระทำ
(1) โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย
(2) โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคน ขึ้นไป หรือ
(3) ในเวลากลางคืน

ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

จุดสำคัญที่บอกผู้อ่าน คือ  ผู้เสียหายในคดีนี้ คือ  ผอ.เบาะแส   ไม่ใช่พระพม่า...........แล้วผู้ต้องหา น่าจะเป็นใคร....???     ทนายความที่พระพม่า จ้างมาช่วยตอบที.......?

ลักษณะ 4 ความผิดเกี่ยวกับศาสนา

มาตรา 206 ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ แก่วัตถุหรือสถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยามศาสนานั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาท ถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 207 ผู้ใดก่อให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในที่ประชุมศาสนิกชน เวลาประชุมกัน นมัสการ หรือกระทำพิธีกรรมตามศาสนาใด ๆ โดย ชอบด้วยกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกิน สองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 208 ผู้ใดแต่งกายหรือใช้เครื่องหมายแสดงว่าเป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวชในศาสนาใดโดยมิชอบ เพื่อให้บุคคลอื่น เชื่อว่าตนเป็นบุคคลเช่นว่านั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หมวด 2 ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ

มาตรา 147 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์สินนั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท

มาตรา 148 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือประหารชีวิต

มาตรา 149 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ หรือกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใด ในตำแหน่งไม่ว่าการนั้น จะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือประหารชีวิต

 มาตรา 150 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งโดยเห็นแก่ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดซึ่งตน ได้เรียก รับ หรือยอมจะรับไว้ก่อนที่ตนได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปีหรือจำคุก ตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท

มาตรา 151 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือ รักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท

มาตรา 152 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท

มาตรา 153 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จ่ายทรัพย์ จ่ายทรัพย์นั้นเกินกว่าที่ควรจ่ายเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท

มาตรา 154 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่หรือแสดงว่าตนมีหน้าที่ เรียกเก็บหรือตรวจสอบภาษีอากร ค่าธรรมเนียมหรือเงินอื่นใด โดย ทุจริตเรียกเก็บหรือละเว้นไม่เรียกเก็บภาษีอากร ค่าธรรมเนียมหรือเงินนั้นหรือกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดเพื่อให้ผู้มีหน้าที่เสีย ภาษีอากร หรือค่าธรรมเนียมนั้นมิต้องเสีย หรือเสียน้อยไปกว่าที่จะต้องเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท

มาตรา 155 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่กำหนดราคาทรัพย์สินหรือสินค้าใดๆ เพื่อเรียกเก็บภาษีอากรหรือค่าธรรมเนียมตามกฎหมาย โดยทุจริตกำหนดราคาทรัพย์สินหรือสินค้านั้น เพื่อให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีอากรหรือค่าธรรมเนียมนั้นมิต้องเสียหรือเสียน้อยไปกว่าที่จะต้องเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปีหรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท

มาตรา 156 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ตรวจสอบบัญชีตามกฎหมาย โดยทุจริต แนะนำ หรือกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใด เพื่อให้มีการละเว้นการลงรายการในบัญชี ลงรายการเท็จในบัญชี แก้ไขบัญชีหรือซ่อนเร้น หรือทำหลักฐาน ในการลงบัญชีอันจะเป็นผลให้การเสียภาษีอากร หรือค่าธรรมเนียมนั้นมิต้องเสีย หรือเสียน้อยกว่าที่จะต้องเสียต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปีหรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท

มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาทหรือ ทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 158 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ทำให้เสียหาย ทำลายซ่อน เร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ หรือเอกสารใดเป็นหน้าที่ของตนที่จะปกครองหรือรักษาไว้ หรือ ยินยอมให้ผู้อื่นกระทำเช่นนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท

มาตรา 159 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ดูแล รักษาทรัพย์ หรือเอกสารใด กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ โดยถอน ทำให้ เสียหายทำลายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ หรือโดยยินยอมให้ผู้อื่นกระทำ เช่นนั้น ซึ่งตราหรือเครื่องหมาย อันเจ้าพนักงานได้ประทับหรือหมาย ไว้ที่ทรัพย์หรือเอกสารนั้นในการปฏิบัติตามหน้าที่ เพื่อเป็นหลักฐาน ในการยึดหรือรักษาสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 160 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาหรือใช้ดวงตรา หรือรอยตราของราชการหรือของผู้อื่น กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ โดยใช้ดวงตราหรือรอยตรานั้น หรือโดยยินยอมให้ผู้อื่นกระทำเช่นนั้น ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 161 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร กรอกข้อ ความลงในเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสาร กระทำการปลอมเอกสาร โดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

มาตรา 162 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสาร หรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการดังต่อไปนี้ในการปฏิบัติการ ตามหน้าที่
(1) รับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้นหรือว่า การอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ
(2) รับรองเป็นหลักฐานว่า ได้มีการแจ้งซึ่งข้อความอันมิได้มี การแจ้ง
(3) ละเว้นไม่จดข้อความซึ่งตนมีหน้าที่ต้องรับจด หรือจด เปลี่ยนแปลงเช่นว่านั้น หรือ
(4) รับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ ความจริงอันเป็นความเท็จ

ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท

มาตรา 163 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ในการไปรษณีย์โทรเลข หรือโทรศัพท์ กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) เปิด หรือยอมให้ผู้อื่นเปิด จดหมายหรือสิ่งอื่นที่ส่งทาง ไปรษณีย์โทรเลขหรือโทรศัพท์ กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ดังต่อไปนี้
(2) ทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้สูญหาย หรือยอมให้ผู้อื่นทำให้เสีย หาย ทำลายหรือทำให้สูญหาย ซึ่งจดหมายหรือสิ่งอื่นที่ส่งทางไปรษณีย์ หรือโทรเลข
(3) กัก ส่งให้ผิดทาง หรือส่งให้แก่บุคคลซึ่งรู้ว่ามิใช่เป็นผู้ควรรับ ซึ่งจดหมายหรือสิ่งอื่นที่ส่งทางไปรษณีย์หรือโทรเลข หรือ
(4) เปิดเผยข้อความที่ส่งทางไปรษณีย์ ทางโทรเลขหรือทาง โทรศัพท์

ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 164 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน รู้หรืออาจรู้ความลับในราชการ กระทำโดยประการใด ๆ อันมิชอบด้วยหน้าที่ให้ผู้อื่นล่วงรู้ความลับนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 165 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไป ตามกฎหมายหรือคำสั่งซึ่งได้สั่งเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ป้องกันหรือขัดขวางมิให้การเป็นไปตามกฎหมายหรือคำสั่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาทหรือ ทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 166 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานละทิ้งงานหรือกระทำการอย่าง ใด ๆ เพื่อให้งานหยุดชะงักหรือเสียหาย โดยร่วมกระทำการเช่นนั้น ด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าความผิดนั้น ได้กระทำลงเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมาย แผ่นดิน เพื่อบังคับรัฐบาลหรือเพื่อข่มขู่ประชาชน ผู้กระทำต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

หมวด 1 ความผิดต่อเจ้าพนักงาน

มาตรา 136 ผู้ใดดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่หรือ เพราะได้กระทำการตามหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 137 ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจ ทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 138 ผู้ใดต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการต่อสู้หรือขัดขวางนั้น ได้กระทำโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือ ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน สองปีหรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 139 ผู้ใดข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วย หน้าที่หรือให้ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสี่ปี หรือปรับไม่เกินแปดพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 140 ถ้าความผิดตาม มาตรา 138 วรรคสอง หรือ มาตรา 139 ได้กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้ากระทำโดยอ้างอำนาจอั้งยี่หรือซ่องโจร ไม่ว่าอั้งยี่หรือซ่องโจรนั้นจะมีอยู่หรือไม่ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สี่พันบาทถึงสองหมื่นบาท
ถ้าความผิดตามมาตรานี้ ได้กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด ผู้กระทำต้องระวางโทษหนักกว่าโทษที่กฎหมายบัญญัติไว้ในสองวรรคก่อนกึ่งหนึ่ง

มาตรา 141 ผู้ใดถอน ทำให้เสียหาย ทำลายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งตราหรือเครื่องหมายอันเจ้าพนักงานได้ประทับหรือหมายไว้ที่สิ่ง ใด ๆ ในการปฏิบัติการตามหน้าที่ เพื่อเป็นหลักฐานในการยึดอายัด หรือรักษาสิ่งนั้น ๆ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน สี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 142 ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สินหรือเอกสารใด ๆ อันเจ้าพนักงานได้ยึด รักษาไว้ หรือสั่งให้ส่ง เพื่อเป็นพยานหลักฐาน หรือเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ว่าเจ้าพนักงานจะรักษา ทรัพย์ หรือเอกสารนั้นไว้เองหรือสั่งให้ผู้นั้นหรือผู้อื่นส่งหรือรักษา ไว้ก็ตามต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 143 ผู้ใดเรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นเป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจหรือ ได้จูงใจพนักงานสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐสมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล โดยวิธีอันทุจริตหรือผิดกฎหมาย หรือโดย อิทธิพลของตนให้กระทำการ หรือไม่กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณ หรือเป็นโทษแก่บุคคลใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 144 ผู้ใดให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์ อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภา จังหวัดหรือสมาชิกสภาเทศบาล เพื่อจูงใจให้กระทำการไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ต้องระวางโทษจำคุกไม่ เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 145 ผู้ใดแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็น เจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
เจ้าพนักงานผู้ใดได้รับคำสั่งมิให้ปฏิบัติการ ตามตำแหน่งหน้าที่ ต่อไปแล้วยังฝ่าฝืนกระทำการใด ๆ ในตำแหน่งหน้าที่นั้น ต้องระวาง โทษตามที่กำหนดไว้ในวรรคแรกดุจกัน

มาตรา 146 ผู้ใดไม่มีสิทธิที่จะสวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่อง หมายของเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภา จังหวัดหรือสมาชิกสภาเทศบาล หรือไม่มีสิทธิใช้ยศ ตำแหน่ง เครื่องราชอิสริยาภรณ์หรือสิ่งที่หมายถึงเครื่องราชอิสริยาภรณ์ กระทำการเช่นนั้นเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ ต้องระวางโทษ

------------------------------------
28  december   2011


ทีม เบาะแส สาบานตนก่อน 
ลงมือ ปิดเกมส์ อั่งยี่...
จนกระทั่งบรรลุเป้าหมาย  จบภารกิจ...?


สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ผู้ทรงกอบกู้เอกราชให้ชาติไทย (ถ่ายที่ ศาล สมเด็จฯ จ.ตาก)

















31 december  2011  

 ในวันที่ 31 December 2011  เวลา ๑๔.๐๐ น. กลุ่มฯเบาะแส นำจับ แรงงานเถื่อน ของขบวนการค้ามนุษย์ ในเขตวัดภาวนานิยมาราม (วัดป่าเก่า) ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก  ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมด้วย มาเป็นเวลานานไม่ต่ำกว่า ๒๐ ปี 






กลุ่มฯเบาะแส นำจับแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ๑๓ คน ส่ง สภ.แม่สอด 






แรงงานต่างด้าว ๑๓  คน ถูกจับ ชุดแรก










ขบวนการค้ามนุษย์ ให้แรงงานต่างด้าวมาพักในวัดก่อนส่งต่อไปยังโรงงาน












แต่มีเจ้าหน้าที่บางคน บอกว่า พวกเขามาทำบุญ ก่อน ไป..งง......ล่ามของ กลุ่มฯเบาะแส  ถามก่อน  จับ หรือว่า ล่าม โกหก หรือเจ้าหน้่าที่ โกหก  แต่ เจ้าหน้าที่ รู้ภาษาพม่า หรือ เจ้าหน้าที่ แก้ตัวแทน...สุดแต่จะคิด...?









ชาวพม่าเห็นเหตุการณ์โทรรายงานพรรคพวก



เนสเล่....จ้างชาวพม่า ขับรถขายสินค้าไอศครีม 
เป็นอาชีพสงวนต้องห้ามต่างด้าวทำงาน










ทหาร ฉก.ร. ๔  เข้ามาร่วมดำเนินการ


นายทหารท่านนี้  ถูกปาด้วยก้อนจาก กลุ่ม อั่งยี่พม่าในคืนวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๕




  












ประชุมตั้งคณะกรรมการ ในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ อย่างเหลังจากมีการแจ้งทุกฝ่ายแล้ว บาคนไม่ให้ความสนใจ ทั้งๆที่ รักษาการเจ้าอาวาสให้เกียรติเพื่อเป็นกรรมการฝ่ายละ ๒ คน















  

   






   
  











ไม่มีบัตรประชาชน ๕๒ คน แฝงแบบทัวร์บุญวัดธรรมกาย










กลุ่มฯเบาะแส แจ้ง ตร. ตม.แม่สอด ตรวจสอบ หลายร้อยคน









  











พ.ต.ท.สมพงษ์  ตม.แม่สอด


















  












หนังสือขอความอนุเคราะห์โดยปลัดอำเภอ ทำได้ไง...ขัดต่อกฎหมาย และผู้ใช้ ยืนยันว่าใช้ได้ทุกครั้ง กฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗  ถามหา......?
  
เอกสารสำคัญ แสดง ความเป็นวัดของไทย........
     
๑ มกราคม ๒๕๕๕ เราพยายาม ใช้กุศโลบาย ให้เขารู้...........




  

พระครูวิเชียร แห่งวัดมณีไพรสนธ์ ใกล้โรงแีรมพรเทพ  ก็มา ทั้งๆที่  ไม่ได้มีตำแหน่งเกี่ยวข้องในการปกครองวัดป่าเก่า










เสื้อขาว คือนายจำปี (พม่า) ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็มา

  



ลงพื้นที่ ....แจ้งให้ คลีนิก แม่ตาว แม่สอด  ของ หมอซินเทรีย  ทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย  เช่น  สาธารณสุข,ใบอนุญาตประกอบการ โรงพยาบาล และอื่นๆ อย่าให้เป็นที่แพร่เชื้อโรคระบาด และ เด็กพม่าที่คลอด แล้วไปอยู่ที่ไหน....? ผู้ว่า จ.ตาก  ฝากด้วยครับ


  















4 Jan  2012   24.00 น. ?????

 กลุ่มฯเบาะแส  ทำงานสำเร็จ เสร็จภารกิจ บรรลุวัตถุประสงค์  ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้... เตรียมตัีวกลับ...ฐานที่ตั้ง  กทม........







































เช้าวันที่   5 Jan  2012  


กลุ่มฯเบาะแสพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด ตชด.๓๔๖ และ ทหาร ฉก.ร.๔   ลงพื้นที่ วัดภาวนานิยมาราม (วัดป่าเก่า) ซึ่งมี กองกำลัง พม่า กะเหรี่ยง ยึด วัดป่าเก่า......ตั้งแต่กลางคืนวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๕




















คืนวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๕ พม่า ใช้ความรุนแรง ขว้างปาหินใส่เจ้าหน้าที่ แต่ เจ้าหน้าที่ เฉย...ไม่ดำเนินการตามกฎหมาย......




นายสมศักดิ์ สะมะโน  จากสำนักพุทธฯ จ.ตาก





แก็งค์ พม่า ยึดพื้นที่วัดทั้งหมด.......



นายไมลา อาจารย์กุล ตัวแทนชาวฮินดูที่สร้างสิ่งก่อสร้างผิดกฎหมายในวัดป่าเก่า นานนับสิบปี...แต่ที่ธรณีสงฆ์ ใคร....ก็ยึดไม่ได้....















นี่คือข้อมูลข่าวที่น่าเชื่อถือ....โดย สถานีข่าวของรัฐ ซึ่งแตกต่างจาก สถานีข่าวของเอกชน....บางช่อง   
http://news.thaipbs.or.th/lite/content/%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%95%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2





ในเครื่องแบบคือปลัดอำเภอแม่สอดนำเอาเอกสารที่เป็นความต้องการของพม่าให้เจ้าคณะตำบลลงนามตามมาถึงวัดเจ้าคณะอำเภอแต่ ผอ.เบาะแส เบรกให้ ทุกคนคิดถึงศักดิ์ศรีของตนเองสุดท้ายจึงผิดหวังกลับไป

สารวัตร ปราบปราม สภ.แม่สอด  ก็มาควบคุม ด้วยตนเอง


พม่า อิสลาม... ก็มาประท้วงด้วย...วัดพุทธ ชัดๆ


ชุดเสื้อยืดสีเขียว เฝ้าพระพม่าฯอยู่ที่วัดป้าเก่าอ้างเป็น  U N ตรวจสอบแล้ว ไม่ใช่

นักข่าวช่อง ๗ สี ทีวี เพื่อคุณ ทำหน้าที่ได้ดีมาก สมกับเป็นคนไทย....555


ชาวพม่า...ทั้งนั้น














ที่นี่แผ่นดินไทย.............แต่พม่า ครอง   ในภาพคือ นายจำปี  ชื่อที่ในวงการเรียก



พระครูสุนทร จริยคุณ   เจ้าคณะตำบล รักษาการเจ้าอาวาส วัดภาวนานิยมาราม   (วัดป่าเก่า)

ส่วนใหญ่ต่างด้าว

ส่วนใหญ่ต่างด้าว

นักข่าวทีวี มาหลายคนแยกแยะให้เห็นฝ่ายอย่างชัดเจน


ปิดหน้าเพื่อสิ่งใด ในกระเป๋ามีอะไร

กำนัน เติม ออกหน้า เข้าข้างใคร....

โอ๊ย...เหนื่อย



ทุกคนที่ต่อต้านนั้นใช้กฎหมายหรือกฎหมู่

กำนันเติม   ต.แม่ปะ แม่สอด จ.ตาก

นายอุทิศ  ที่อ้างว่า แม่ตนเองเป็นคนพม่า รักวัดป่าเก่ามาก....สงสัย 
รักชาติไทย...มากด้วย






ในภาพที่อ้างว่าคณะศรัทธา....นั้น ส่วนใหญ่คือต่างด้าว




ดูให้ดี มีคนไทยสักกี่คน














เงื่อนไข  ๓ ข้อ ไม่รู้ของฝ่ายไหน...? คิดเอา

๑. ให้ปลดผอ.เบาะแส จากการเป็นประธานที่ปรึกษาวัดฯ  (เบาะแส ทำภารกิจ ปราบขบวนการอั่งยี่....จบก็ไปแล้วไม่ต้องปลด  แม้แต่งาน ปราบขบวนการโกงเงินวัดโสธรฯ จ.ฉะเชิงเทรา ก็เช่นกัน ไม่มีการยึดติดเพื่อหาประโยชน์เหมือน กลุ่มอั่งยี่...)
๒. ให้พระครูสุนทร ลาออกจาก การเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าเก่า (กดดันพระในการบริหารงานคณะสงฆ์  พระผู้ใหญ่จะว่าไง......)
๓. ให้ยกเลิกคดี กรณี พระบ๊ะตาน (พระพม่า) กระทำผิด หลบหนีเข้าเมืองและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต (ตลกมากประเทศไทย กฎหมายไม่มีความหมาย หรือบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป รึไง.......ไม่รู้คนคิดใช้สมองส่วนไหนคิด งานนี้ไม่รู้ใครต้นคิด....)

เงื่อนไข ชาวฮินดูต่อรอง ในการรื้อศาสนสถานของฮินดู  

ให้เอาเงิน ๓ ล้าน ที่มี คนใส่เสื้อสีเหลือง ....ผู้ใหญ่  เอาไปเมื่อก่อนนี้ คืนมา

ในวัดนี้มีขบวนการค้าประเวณี...ท่านที่เคยใช้บริการจะทราบว่าคนไหนเป็น.....อะไร ในรูปที่ดูผ่านมาๆ บางคนเป็นแม่เล้า.....ดูดีๆจะทราบ

  กลุ่มฯเบาะแส เฝ้าดูพฤติกรรมสาว...บริการ ขับรถจักรยานยนต์เข้าให้บริการในวัด ยามวิกาล....


ทาง ไทย PBS มีความจริงมากที่สุด ส่วนค่ายอื่นต้องใช้วิจารณญาณ
http://news.thaipbs.or.th/lite/content/%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%95%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2


รายการโทรทัศน์ ไทยพี บี เอส
http://news.thaipbs.or.th/video/%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B0-%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AE%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B9-%E0%B9%83%E0%B8%99-%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%94-%E0%B8%88%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%81


มีการลงข่าวเท็จ.....ในสื่อหลายสื่อ  บางสื่อถูก ผอ.เบาะแส แจ้งข้อหาหมิ่นประมาท....แล้ว


http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9550000001701


ปัญหาที่มา.....
เกิดจาก  เจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย รับเงิน ให้  ฮินดู เข้ามาสร้าง ศาสนวัตถุ ในวัดภาวนานิยมาราม (ป่าเก่า) จำนวน ๓ ล้าน ทั้งที่ผิดต่อกฎหมาย   และมีการดูแลกันมาโดยตลอด  เจ้าหน้าที่ คนที่เข้ามาดูแลใหม่ ก็ไม่กล้ากระทำ เพราะอิทธิพล ของผู้นั้น ทั้ง ทางมืด และสว่าง เนื่องจากมีคนเคารพ นับหน้าถือตา.....จำนวนมาก....บางคนก็เอาหูไปนา เอาตาไปไร่......นี่คือสังคม  แม่สอด  ผลประโยชน์ เท่านั้น ที่ คนบางคนต้องการ  ไม่ได้ เล็งเห็น แก่ ความมั่นคงของชาติ  ที่มัน.....ผู้นั้น อาศัย  เกิด แก่ เจ็บ ตาย.....กอบโกย  มีแต่ ๒ คำนี้   ทั้งที่ น่าจะรักษาศีล ๕ ข้อให้ครบ ตามที่ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสั่งสอน............?

โปรดรอการ แฉ....ว่าใคร เอี่ยวกับงานนี้บ้าง ตั้งแต่ เริ่มแรก ของการที่ นายลาบู เข้ามาเอาเงินที่มาจากการ.....มาสร้างกุฎิ ตามภาพ........จนกระทั่ง.....ความรุนแรงเกิดขึ้นในขณะนี้......โปรดติดตาม...?
ุ6 Jan  2012   
พนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด  นำตัวผู้ต้องหาคือคดี ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ฯ  คือ พระบ๊ะตาน  ส่งสำนวนให้อัยการ เพื่อรอส่งฟ้องต่อไป................

10 Jan 2012  


คดี บุกรุก....เปิดแล้ว....รอติดตามว่าใคร เป็นผู้ต้องหาบ้าง  แต่ที่แน่ๆ  มี คนพม่าเป็นผู้ต้องหา  หลายคน........รวมทั้ง คนสัญชาติไทย ที่ร่วมด้วย.......รอหมายเรียก..ถึงตัว..ก็รู้เอง...?























11 Jan  2012    
ข้อเรียกร้อง  ของ กลุ่มคนไทยส่วนน้อย และพม่าส่วนใหญ่    ที่มีการประท้วง...ให้เจ้าคณะตำบล.....ด้วยการกดดัน เจ้าคณะตำบล  ไม่เป็นผล.... เพราะ  ผอ.เบาะแส ขวางไว้....?  ด้วยศักดิ์ศรี ของพระสงฆ์ไทย...ที่มีหัวใจรักชาติ.......?

12 jan 2012  

DSI.  เข้าพื้นที่ในวัดป่าเก่า...ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว.....ตรงตาม ข้อมูล ของกลุ่มฯเบาะแส...............

ตรวจสอบ..ต่อมา พบว่า มี....โรงแรมแห่งหนึ่ง..... ในเขตแม่สอด จ.ตาก  สร้างอยู่บนที่ดินของวัด.........ซึ่งไม่ทราบว่า  ถูกกฎหมาย...หรือไม่.....(สำนักพุทธฯแห่งชาติ...ทราบดี)  และมีที่มาว่า  คนใส่เสื้อสีเหลือง..........ดูแลอยู่พร้อมผล...........เราจะตรวจสอบพร้อมทำเรื่องถึง หน่วยราชการที่รับผิดชอบต่อไป...เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย....?

เราจะตรวจสอบทุกกรณี เกี่ยวกับบุคคลกลุ่มนี้ขึ้นมาเพื่อประโยชน์ของชาติ.....?

แนวคิด.....ที่เป็นที่ยอมรับ

ศ. นพ. ประเวศ วะสี นักคิดคนสำคัญ ได้เขียนคำนำ

ให้ แก่หนังสือ “ ข่าวเจาะ ” ของเสนาะ สุขเจริญ แห่ง

หนังสือพิมพ์ประชาชาติ ลงวันที่ 29 เมษายน 2547 

ว่า “ การหยุดยั้งคอรัปชั่นที่ชะงัดทีี่่่สุด คือการทำ

หนังสือพิมพ์เชิงสืบสวน สอบสวน เพราะคอรัปชั่นไม่

กลัวความเห็น แต่กลัวความรู้....สื่อมวลชนของเรา

 ยังขาดวัฒนธรรมและความสามารถในการรายงาน

แบบสืบสวนสอบสวน   จึงขาดพลังในการหยุดยั้ง

คอรัปชั่่น การรายงานเพียงการสัมภาษณ์ว่า

ใครมีความเห็น หรือใครทำอะไร ไม่มีพลังแห่ง

การใช้ความจริง เป็นเพียงความหวือหวา ”

ประจำวัน กรณี เงิน ทอด กฐิน ที่แปลงเป็นผ้าป่า ๑๖๐,๐๐๐ บาท  
ในวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๔  ไม่รู้ใครเอาไป....



18 Jan 2012

จากข้อสงสัย...ของทั้ง ชาวต่างประเทศ  ชาวพม่าที่อาศัย หรือศึกษา...อยู่ในต่างประเทศทั่วโลก  ชาวพม่าในพื้นที่... ระนอง.. มหาชัย ..แม่สอด และ กลุ่มข้าราชการ ท้องถิ่น บางคน พร้อมทั้ง...พระสงฆ์...บางส่วน...เกิดความสงสัยว่า...เรื่องนี้ปัญหาเกิดจาก อะไร..?  อะไร คือปัญหาของเรื่อง  นี้ทำไม บานปลาย...ต่อไปไม่จบสิ้น....(๒๐ กว่าปีมาแล้วมันฝั่งรากลึกมาก)  
กลุ่มฯเบาะแส ขอประกาศ ให้ทราบโดยทั่วกันว่า  เรื่องที่เกิดขึ้น.... มิได้เกิดจาก การทอดกฐิน หรือผ้าป่าซ้ำซ้อนกัน ใครชิงทอด....ก่อนหรือหลัง  และกลุ่มฯเบาะแส ก็ไม่ได้  เข้าไปมีส่วน...เรื่องการทอดกฐินหรือผ้าป่า  กลุ่มฯเบาะแส เข้าไปที่วัดป่าเก่า....วันแรกคือ วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๔   ซึ่งมีการทอดกฐินหรือทอดผ้าป่า ไปแล้ว ในวันที่ ๑๖ และ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๔  ฉะนั้นปัญหาที่บางคนพูดว่า  "กลุ่มฯเบาะแส เข้าไปมีส่วนร่วมในการชิงทอดกฐิน หรือผ้าป่า นั้น" จึงเป็นเรื่องเท็จ   ต่อมา เรื่องที่เกิดขึ้น....จะเกี่ยวกับการชิงตำแหน่งเจ้าอาวาสของพระดนัย...หรือไม่นั้น  ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำงานของ  กลุ่มฯเบาะแสหรือเรื่องการชิงดี-ชิงเด่น ของพระ ๒ รูป ในวัดป่าเก่า ก็ไม่ใช่ปัญหา..ของประเด็น
ประเด็น...ปัญหาอยู่ที่... เป็นนโยบาย การปราบปราม แก็งค์พม่า...ที่สร้างอำนาจในประเทศไทย...โดยมีฐานบัญชาการ...อยู่ที่ จังหวัดระนอง , มหาชัย และ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก  เป็นเรื่องแรงงานเถื่อนซึ่งเข้าข่ายการค้ามนุษย์ การแพร่โรคระบาด การทำแท้ง การสร้างปัญหาอาชญากรรม การอยู่อาศัยของประชาชนคนไทยผู้บริสุทธ์ อย่างหวาดผวา....ต่ออาชญากรพม่า(ตามที่มีข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์เป็นประจำ)  ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ฯของรัฐร่วมด้วยในการหาประโยชน์....เข้าตนเองและแบ่งสันปันส่วนกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ..และนักข่าวบางคน..บางค่าย....โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายอย่างใหญ่หลวง 
ซึ่งเป็นผลกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของรัฐ (ประเทศไทย) 





และเรื่องที่เกิดขึ้น  มีผู้คนหลายฝ่ายรวมทั้ง....พระสงฆ์ที่สติ..ปัญญาของท่าน  ยังคง....คิดไม่ถึง....กล่าวว่า  "ทำไม เบาะแส  จึงไม่ทำข่าว...อย่างเดียว...เป็นนักข่าว ทำไม..มายุ่งเรื่องของวัดเรื่องของพระ"   และยังมีนักข่าว...บางคนบอกว่า   "ให้ ผอ.เบาะแส มาบวชเป็นเจ้าอาวาส ซะเลย..." (คิดแบบโง่ๆ... เป็นพระสงฆ์...จะปราบปรามคนชั่วได้อย่างไร...สมองคงมีไว้คิดเฉพาะเรื่อง....ที่สังคมไม่ยอมรับเ่ท่านั้น...? )   
กลุ่มฯเบาะแส  ขอเรียนให้ทุกท่านทราบ ด้วยความเคารพสำหรับผู้ที่มีการศึกษาและมีความสำนึกในบุญคุณของแผ่นดิน  ของประเทศชาติที่ให้เราได้มีที่ซุกหัวนอน...
เรื่องที่ กลุ่มฯเบาะแส  กระทำนี้  อยู่ในแผนและยุทธศาสตร์การปราบและปราม..ต่างด้าวที่เข้ามาสร้างอิทธิพล..โดยใช้เจ้าหน้าที่รัฐ....เป็นเครื่องมือ..สร้างอำนาจและหาผลประโยชน์กับพวกเดียวกัน ......โดยใช้คำว่า " U N"  เป็นตัวนำหน้า...ทั้งๆที่ องค์การฯตัวจริงมิได้เกี่ยวข้องแต่อย่างใด...





 รวมทั้งการ ปรามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการ คอรัปชั่น......? ซึ่งผลงานของ 
องค์อิสระ ( N G O )   ที่มีนามเรียกขานว่า  " กลุ่มฯเบาะแส"   นั้นมีผลงานประจักษ์ชัดต่อสายตาชาวไทยผู้รักชาติและชาวโลก...ที่เข้ามาชม (Website   http://sekson-borsae.blogspot.com)  จึงเป็นเครื่องยืนยัน...ต่อความสำเร็จขององค์กร... และประการสำคัญขอให้ทุกท่านรับทราบว่า  กลุ่มฯเบาะแส ไม่ใช่  นักข่าว ตามที่ท่านเข้าใจ...(ศึกษาความเป็นมาได้ใน website นี้)





19 Jan   2012
  จากการตรวจสอบ มีการให้อนุญาต จากพระรูปหนึ่ง....ในอดีต....ให้มีการเช่าที่ดินสร้าง โรงแรม.... ในที่ดินของวัด โดย ไม่ถูกต้อง ในเขต อำเภอแม่สอด จ.ตาก  ขอให้ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  สังกัด นายกรัฐมนตรี ตรวจสอบ การกระทำผิดและดำเนินคดี ตามกฎหมายจนถึงที่สุดด้วย.เพื่อเป็นเยี่ยงอย่างต่อไป.... 

และประเด็นสำคัญ  มีพระอีกรูปหนึ่ง....วางศิลาฤกษ์ สร้าง ศาสนสถานฮินดูในวัดป่าเก่า... ทั้งๆ ที่เป็นการผิดกฎหมาย....ไม่ทราบพระรูปนี้ กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗ หรือไม่....???
ถ้าผู้ใดอยากทราบว่า พระรูปนี้ ชื่ออไร...??? ถามมาได้ทาง อีเมลล์......ถ้าอยากให้เปิดเผยชื่อก็ยินดี......

20 Jan 2012

บทสรุป....วัดภาวนานิยมาราม (วัดป่าเก่า) กับสื่อที่ออกข่าว

ทั้งจริงและไม่จริง....?????

พี่น้องคนไทยที่รัก...ผอ.เบาะแส ... ยังไม่เคยได้ให้สัมภาษณ์..กับสื่อใดๆ...หรืออ้างใดๆ ตามที่เป็นข่าว....ไม่รู้ Thai pbs  ไปเอาข้อมูลนี้มาจากไหน... รวมทั้งสื่ออื่นๆที่นำข้อมูล ด้านเดียว มาเสนอ....และข้อมูล....วัดที่มีพระต่างด้าวอาศัยอยู่ก็คือ...วัดภาวนานิยมาราม(วัดปาเก่า) ไม่ใช่   วัดฮินดูตามที่เป็นข่าว    วัดฮินดูที่อยู่ในวัดภาวนาฯนั้น....ไม่ใช่วัดฮินดู...  ไม่มีคนอยู่อาศัยแม้แต่คนเดียว  เป็นเพียง สถานที่ก่อสร้างวางเทวรูปไว้เท่านั้น เป็นที่ทำพิธีกรรมในบางครั้ง และเป็นพิธีกรรมที่ขัดต่อ พ.ร.บ.สงฆ์ ของไทย  นานๆจะมีชาวฮินดู  ต่างด้าวเข้ามาดูแล...และสถานที่ ที่ตั้งเทวรูปของฮินดู  ก็สกปรกมาก....
ส่วนปัญหาที่เกิดนั้นเกิดจาก ...วัดภาวนานิยมาราม มี พระบ๊ะตาน  เป็นพระพม่า  ไม่มีใบสุทธิ.... หลบหนีเข้าเมือง   มาประมาณ ๒๐ ปี และพักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย.....โดยไม่มีหน่วยงานของรัฐดำเนินการจับกุม...ตาม พรบ.คนเข้าเมือง  และเมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๔  ผอ.เบาะแส ได้เข้าไปดำเนินการ...แจ้งข้อกล่าวหาในคดีอาญาที่ ๑๘๑๗/๒๕๕๔   ร.ต.อ.พงศกรฯ  พนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด ภายใต้การกำกับดูแล ของ พ.ต.อ.เดชชาติฯ  ผกก.สภ.แม่สอด เป็นผู้บังคับบัญชา  ร่วมดำเนินการ    
ตลอดระยะเวลา ๒๐ ปีที่ผ่านมานั้น  พระบ๊ะตาน รูปนี้ พยายามจะเป็นเจ้าอาวาส...ซึ่งตามกฎหมายไทย...พระต่างด้าวไม่สามารถเป็นเจ้าอาวาสได้...  ในอดีต เคยมีเจ้าคณะตำบลซึ่งมรณภาพไปแล้ว ทำหนังสือแต่งตั้งพระบ๊ะตานเป็นรักษาการเจ้าอาวาส  ต่อมาเจ้าคณะตำบลมรณภาพ  เจ้าคณะตำบลรูปใหม่ คือพระครูสุนทร จริยคุณ  มาทราบเรื่องได้ศึกษาข้อมูล และได้ยกเลิกการแต่งตั้ง  ในปี พ.ศ.๒๕๔๕  เนื่องจากเป็นการแต่งตั้งโดยมิชอบด้วยกฎหมายและผิดกฎหมาย  ต่อมาปี พ.ศ.๒๕๔๗  ได้ตั้งพระสงฆ์ไทย ชื่อพระดนัยฯ เป็นรักษาการเจ้าอาวาส   จึงได้เกิดเหตุ มีมวลชนที่เป็นลูกครึ่งพม่า-ไทย และ ชาวพม่าทั้งที่มีบัตรอนุญาตเข้ามาทำงานและไม่มีบัตรฯ...พร้อมทั้งต่างด้าวที่อ้างเป็น  UN  แต่ตรวจสอบแล้ว เป็น UN ปลอม  พยายามกดดันการทำงานของคณะสงฆ์และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ,ใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย  โดยภายในวัดภาวนาฯ นี้  เป็นที่ซุกซ่อน อาวุธ ยุทธโธปกรณ์ต่างๆ ใช้ในสงคราม ที่มาจากกลุ่มทหารกะเหรี่ยง...ไว้มากมาย  มีการฆาตกรรม ในวัดฯไม่ต่ำกว่า ๔ ครั้ง   แต่ก็ปิดข่าวไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐทราบ   ซึ่งกลุ่มนี้มีพฤติกรรมการหาประโยชน์โดยการ....ค้าแรงงานเถื่อน....(ค้ามนุษย์)...ส่งไปยังมหาชัย ระยอง อยุธยา และที่อื่นๆ  มาเป็นเวลานาน....  มีการค้าประเวณีในวัดฯ  ยาเสพติด    รวมทั้งมีผู้หญิงต่างด้าวที่มาอาศัยอยู่ในวัดนี้...ร่วมกับพระต่างด้าว....ที่ไม่มีบัตรและ 
ขบวนการนี้ทั้ง พระบ๊ะตาน หรือพระสงฆ์พม่าหลายคน และต่างด้าวชาวพม่าทั้งหญิงและชายที่อาศัย...ทั้งหมดนี้    ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่อาศัย จากรักษาการเจ้าอาวาส,เจ้าคณะตำบล,เจ้าคณะอำเภอและสำนักพุทธศาสนาจังหวัดตากหรือผู้ว่าราชการจังหวัดตากแต่อย่างใด....
การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำแบบอั่งยี่ซ่องโจร  อยู่แบบเหนือกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ แม่สอด ไม่สามารถดำเนินการใดๆได้  ด้วยเหตุที่พม่าพวกนี้เป็นกลุ่มทหารกะเหรี่ยงคริสต์ ,กะเหรี่ยงพุทธ อิสลาม...เข้ามาร่วมกดดันเวลาที่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐจะดำเนินการตามกฎหมาย....เมื่อเรื่องต่างๆ ถึงมือ  ผอ.เบาะแส ...จงเป็นที่มาของการเปิด...แผลเพื่อดำเนินการล้าง...กลุ่มกะเหรี่ยงพม่า ที่กระทำตัวเป็นอั่งยี่...ค้ามนุษย์ , ค้ายาเสพติด,ค้าประเวณี...ซึ่งทำมานานมากกว่า ๑๐ ปี  จนฝังรากลึกแน่น...เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ว่าฝ่ายปกครอง หรือฝ่ายปราบปราบ ไม่กล้าดำเนินการ..จะด้วยเหตุ  มีผลประโยชน์ร่วมกันหรือกลัวตายหรือประเด็นอื่นๆนั้น...ไม่อาจคิดแทนหรือรับทราบได้...เพราะถ้าเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำตรงไปตรงมา...ปัญหาทุกอย่างที่สะสม..มามากขนาดนี้  คงไม่เป็นมานานนับ ๑๐ ปี เช่นนี้  
สำหรับ ประเด็นที่ ตัวแทนฮินดู...อ้างนั้น   มีเบื้องหลัง คือ กลุ่มอั่งยี่พม่า....ที่พยายามผลักดันให้พระบ๊ะตาน เป็นเจ้าอาวาส เพื่อ..ที่กลุ่มตนเอง...จะได้ดำเนินกิจกรรมหาประโยชน์จากการ... ค้ามนุษย์ ค้ายาเสพติด ค้าประเวณี และเป็นที่ซ่องซุมผู้คนอาวุธฯ   ไม่สามารถอ้างเหตุ ว่า...กลุ่มฯเบาะแส , ตำรวจ หรือทหาร จะมาจับพระบ๊ะตาน.. เหมือนทุกครั้ง  เพราะขณะนี้ชาวพม่ารู้ว่า พระบ๊ะตาน ได้ถูกดำเนินคดีแล้ว   จึงไม่สามารถนำมาปลุกระดมมวลชนชาวพม่า...ได้อีก  จึงไปปลุกปั่น....ชาวฮินดู ที่มีสิ่งก่อสร้างในวัดนี้ ขึ้นมาต่อสู้ทั้งๆ  ที่อยู่แบบผิดกฎหมาย   สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตาก ให้ดำเนินการรื้อถอนตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๗   มาสู้โดยที่กลุ่มอั่งยี่พม่า...เป็นผู้นำพา...มวลชน  ลูกครึ่งพม่าบางคนที่มีสัญชาติไทยและชาวพม่าที่มีสัญชาติพม่า...นักศึกษาพม่า...มาเป็นมวลชนสนับสนุน...ในการประท้วงหรือกดดันเจ้าหน้าที่รัฐ...ถ้าสังเกตุจากภาพบุคคลที่มาประท้วงในงานนี้จะมีส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาพม่า,แรงงานต่างด้าวชาวพม่า ส่วนคนสัญชาติไทย จะมีไม่เกินร้อยละ ๑๐ เท่านั้น  และชาวฮินดูที่มาร่วมนั้น   ทุกท่านสามารถดูที่กลางหน้าผาก จะเห็นมีจุดสีแดงแต้ม มีจำนวนน้อยมาก ซึ่งสามารถนับจำนวนคนได้

เมื่ออธิบายถึงขั้นตอนนี้....เราเชื่อว่า...ทุกท่านที่ติดตามเรื่องนี้...จะ

ถึงบางอ้อทันที....คำนวนถึงที่มา-ที่ไปได้อย่างชัดเจน.......???   ใครทำ

เพื่อผลประโยชน์ ของตนเองกับพรรคพวก   ใครฝืนต่อกฎหมาย  ใครใช้

กฎหมู่  ใครดี - ใครชั่ว  ใครไม่ยอมรับกฎ กติกาสังคม.......แล้วทีนี้เราคง

สรุปได้แล้วว่า   ประเทศไทย...ไม่ต้องการเชื้อสายต่างด้าว

 , ต่างด้าวที่มาสร้างปัญหาบนผืนแผ่นดินไทย.....ที่บรรพบุรุษของ

เรา เอาเลือดเอาเนื้อแลกมาด้วยชีวิต.......เพื่อให้เราได้มีที่

อยู่.....ตราบเท่าทุกวันนี้.......?????????

23 jan  2012


ให้ นายพล ตัน ส่วย และ  เต็งเส่ง ผู้นำประเทศพม่า  ตรวจสอบด้วย ว่านายลาบู    นำเงินจากไหน  ในสมัย นายพล เนวิน ..มีอำนาจ   และ         นายลาบู   อายุปัจจุบันประมาณ ๘๐ ปี มีลูกสาวชื่อ นางโนรา....โดยนายลาบู ...นำเงินมาสร้าง อาคาร หลังนี้ในภาพ.... 



เพื่อให้ พระพม่า ชื่อ บ๊ะตาน  อาศัยและ นายลาบู ก็มาพักพิง.ที่นี่...และตามมาด้วยมีผู้ที่มาพักพิง แบบ ผิดกฎหมาย...อาศัยอยู่...... โดยที่ หน่วยงานของรัฐ ไม่กล้าแตะต้อง.....มาโดยตลอด  งานนี้ มีผู้หญิงพม่า บางคนถูกจับ ข้อหาวีซ่าปลอม และมีการเคลียร์จบด้วยเงิน..ในขณะนั้น ....เรื่องนี้กำลังจะถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่......????? 


24  Jan 2012
สถานการณ์...ชายแดนไทย  คนไทยถูก พม่า หรือ ทหารกะเหรี่ยงพุทธ กะเหรี่ยงคริสต์...รังแก....ใกล้จุดแม่สอด..วัดป่าเก่าดูรายละเอียดใน


http://www.chaoprayanews.com/2012/01/24/%E0%B8%97%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%A1-%E0%B8%81/

http://www.springnewstv.tv/news/local/11408.html

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=355203

http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9550000010594

http://www.komchadluek.net/detail/20110111/85376/%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%96%E0%B9%883%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%99.html

http://news.buddyjob.com/world/show_news-15790-4.html


นี่คือพฤติกรรม..บางส่วนของทหารกะเหรี่่ยง.....ที่รังแกคนไทย......เสร็จแล้วก็หนีกลับไปในเขตพม่า......รัฐบาลไทย.....จะช่วยประชาชนให้ปลอดภัยได้หรือไม่....?    แต่ที่แน่ๆคือคนไทย...ตาย...???

27 jan 2012






มีการพิมพ์ หนังสือ ให้ เจ้าคณะตำบล แม่สอด เขต ๑ ลาออกจาก  รักษาการวัดภาวนานิยมาราม(่ป่าเก่า)  ไม่รู้คนทำคิดได้ไง.......เอาอะไรมาคิด......เจ้าคณะตำบลท่านอยู่ใน ความดูแลของ ผอ.เบาะแส  ท่านไม่ได้พิมพ์ ท่านก็ไม่ได้สัีัั่่งให้ใครพิมพ์  และท่านก็ไม่ได้..ลาออก....อย่าคิด... ไปเอง ...???
...สิ่งที่กดดันเช่นนี้ ไม่ต้องทำให้เสียเวลา.....ไม่มีใคร  โง่.....เหมือน...ท่าน...คิด...???
วันแรก  ก็ให้ปลัด...นำมาให้ลงชื่อต่อหน้า ผอ.เบาะแส    ผอ.เบาะแส เชิญ...กลับ...ไป  และให้ทุกคนคิดถึงศักดิ์ศรี ของตนเอง....ในความเป็นคนไทย...อย่าให้  พม่า...บีบ  หรือ อาจ ชอบ...ก็ไม่ทราบได้   ...?
เลิกเป็น ทาส...พม่า..ได้แล้ว  บรรดาข้าราชการ ไทย.....????  เราไม่ได้เจาะจงว่าใคร....แต่ใครจะเดือดร้อนรับเอาไปก็ตามแต่จะคิด..???


สรุป  เจ้าคณะตำบลฯท่านไม่ได้ลาออก..เจ้าคณะอำเภอ และจังหวัด  ท่านก็ทราบดีว่า....พวก พม่า กะเหรี่ยง หวังอะไร....ช่วงเดือนธันวาคม ๒๕๕๔ มีคณะมวลชนไปร้อง เจ้าคณะจังหวัด  ว่า ผอ.เบาะแส........แต่ดันเอา  คนอิสลามไปร้อง  ไม่รู้โง่..หรือฉลาด.. นี่วัดศาสนาพุทธ...ไม่ใช่  สุเหร่า ของศาสนา อิสลาม......เน้อ....???


30 jan 2012


รายชื่อวัด  ใน อำเภอแม่สอด จ.ตาก
ที่ต้องเตรียมตัว..........จัดการเรื่องพระต่างด้าวที่อาศัยจำพรรษาโดยไม่ได้รับอนุญาต...ต่อจากวัดป่าเก่า..........................................



3 Feb   2012


เอาเรื่องวัดมาฝาก สำหรับ ผู้ที่ไม่เข้าใจ...ในกรณี ชาวบ้านคนไทย...และ ต่างด้าว พม่า ที่เข้ามาสร้างปัญหาในวัดภาวนานิยมาราม(ป่าเก่า)และผู้ที่นำเอาที่ดินของวัด........ ไปให้ นักธุรกิจ หาประโยชน์....สร้าง โรงแรม....  ซึ่งขัดต่อกฎหมาย..แต่ทำไมไม่มีผู้ใดดำเนินการกับผู้กระทำผิด.....
----------------------------------------



" ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับเจ้าอาวาส "


" ชาวบ้านต้องเคารพยำเกรงต่อวัด ต้องเกรงอกเกรงใจต่อพระภิกษุสามเณร ต้องคิดเสมอว่าวัดคือสถานที่เคารพสักการะวัดมีผู้ปกครองดูแล มีเจ้าอาวาสและพระภิกษุสามเณรรับผิดชอบ จะไปทำหรือเกี่ยวข้องอะไรในวัด ต้องบอกกล่าวให้ทางวัดทราบ ต้องขออนุญาต ต้องมีความละอายแก่ใจ "


"ผู้มีอำนาจหน้าที่สั่งแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสนั้น คือ
๑. วัดราษฎร์ (กรณี วัดป่าเก่า) เจ้าคณะตำบลสั่งแต่งตั้ง เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัดสั่งแต่งตั้งไม่ได้ "



" วัดสามารถจัดให้เช่าได้ทั้งที่ตั้งวัด ที่ธรณีสงฆ์ และที่กัลปนา ในระยะเวลาการเช่าไม่เกิน 3 ปี ถ้าเกินกว่านี้จะต้องได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งการเช่าที่ดินจะต้องไม่ใช้การเช่าเพื่อการแสวงหาผลประโยชน์ของผู้เช่า "


" ๑. ห้ามบรรพชิตและคฤหัสถ์ซึ่งไม่ได้อนุญาตของเจ้าอาวาสเข้าไปอยู่อาศัยในวัด
   ๒. สั่งบรรพชิตและคฤหัสถ์ซึ่งไม่อยู่ในโอวาทของเจ้าอาวาสออกไปเสียจากวัด
  ๓. สั่งให้บรรพชิตและคฤหัสถ์ที่มีอยู่หรือพำนักอาศัยอยู่ในวัด ทำงานภายในวัดหรือทำทัณฑ์บนหรือขอขมาโทษ ในเมื่อบรรพชิตหรือคฤหัสถ์ในวัดนั้นประพฤติผิดคำสั่งของเจ้า-อาวาสซึ่งสั่งโดยชอบด้วยพระธรรมวินัย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำสั่งของมหาเถรสมาคม "


" ชาวบ้านบางหมู่บ้านทำไม่ถูกในเรื่องนี้ นอกจากจะไม่สนใจหรือเอาใจใส่ในการอุปถัมภ์บำรุงวัดและพระภิกษุสามเณรแล้ว ยังชอบเข้าไปยุ่มย่ามสร้างความวุ่นวายให้ทางวัดด้วย "



" ภายในวัดไม่มีใครใหญ่กว่าเจ้าอาวาส
             เป็นเจ้าพนักงานฝ่ายยุติธรรม เมื่อมีอธิกรณ์หรือมีความผิดเกิดขึ้นในวัด เจ้าอาวาสมีอำนาจหน้าที่สืบสวน สอบสวน และมีอำนาจหน้าที่พิจารณาวินิจฉัยลงโทษได้ด้วย "
























และต่อไปนี้คือคำตอบที่ว่า....กลุ่มฯเบาะแส...เสร็จสิ้นภาระกิจ....ตั้งแต่ คืนวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๕ 


14 Feb  2012
ผอ.เบาะแส ลงพื้นที่ แม่สอด ประชุม ร่วม ๘ หน่วย ราชการ  ก่อนการกวาดจับ พม่าในแม่สอด


วันที่ ๑๔ ก.พ. ผอ.เบาะแส พููดในที่ประชุม ๘ หน่วย ให้ 


ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองและ สนง.พระพุทธ


ศาสนาฯ....ได้สำนึกในความเป็นผู้บุกเบิก...ในการทำหน้าที่


 ปกป้องแผ่นดิน...อย่าให้ลูกหลาน เหลน โหลน..มันด่า 


หรือสาปแช่ง ว่า คนรุ่น ปู่ รุ่นย่า ตา ยาย มันทำสิ่งใด


ไว้...เชื้อชาติพันธ์ คนไทยจึงได้เปลี่ยนเป็น ไทยผสมพม่า....?


16 Feb 2012
นี่คือ นายอำเภอตัวอย่าง
นายปรีชา ใจเพชร  นายอำเภอแม่สอด จ.ตาก   สนธิกำลัง ทหาร ฉก.ร.๔  ทหารพราน ตชด.๓๔๖ ตำรวจ ลงพื้นที่ แม่สอด กวาดจับแรงงานต่างด้าว....แม่สอด
ดูรายละเอียดในเวปนี้
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000021449


ข้อมูล.....พม่าโหด
http://www.manager.co.th/asp-bin/PrintNews.aspx?NewsID=9530000002388

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=552716

27 feb  2012
เปิดมานานแล้วก่อน ผอ.เบาะแส ลงพื้นที่ ปราบ อั่งยี่แม่สอด
ผอ.เบาะแส ลงพื้นที่ แม่สอด และ อำเภอใกล้เคียง   ประชุม...และลงพื้นที่...ช่วยชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน






ผอ.เบาะแส , สำนักพุทธ ตาก, พนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด ,ป่าไม้ แม่สอด ,ปลัด อ.แม่สอด และเจ้าคณะตำบล เตรียม ปิดวัดฯ





















29 feb   2012


มีนาย ก.  อ้างเบื้องสูง   อาสา  หาทางให้พระ เขมา...ถอนแจ้งความ คดีบุกรุก  เพื่อให้ ๘ แกนนำ พ้นผิด.....สุดท้าย  555 รู้กัน......หลวงพ่อเขมา ..ท่าน ไม่โง่...น๊ะ...
มีใครบางคนหลอกเอาเงินกับ พระเขมาฯและ ๘ แกนนำ โดยอ้างว่า สามารถ ให้พระเขมา...กลับเข้าจำพรรษาในวัดป่าเก่าได้.....


1 March  2012


กลุ่ม..อั่งยี่  กะเหรี่ยง พม่า....ติดกับดัก...ของ ผอ.เบาะแส   ครบถ้วนกระบวนของกฎหมาย ครบองค์ประกอบความผิด......คดีบุกรุก(คดีนี้อยู่ในความรับผิดชอบของ พ.ต.ท.จิระศักดิ์ สภ.แม่สอด ผู้เสียหายคือ พระเขมาฯ),คดีลักทรัพย์,คดีทำให้เสียทรัพย์,คดีความมั่นคงของรัฐและอีกหลายๆคดี..โปรดติดตาม
(พระเขมาฯ  เป็นเจ้าบ้านระบุในทะเบียนบ้าน วัดภาวนานิยมาราม(ป่าเก่า)  เป็นผู้เสียหายในคดีบุรุก และคดีลักทรัพย์ ชัดเจน  ถ้าใครว่าไม่ใช่   คงต้องกลับไปเรียนกฎหมายใหม่ หลอกคนโง่...น่ะ พอได้)


แกนนำ ๘ คน  ตกหลุมพราง  ของ ผอ.เบาะแส  การก่อสร้างที่เก็บกระดูกของนายลาบูโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก รักษาการเจ้าอาวาส วัดป่าเก่าและคณะกรรมการวัดป่าเก่าที่ถูกต้องตามกฎหมาย  งานนี้อย่างไรก็ต้องรื้อหรือทุบทิ้ง....สิ่งก่อสร้างที่จะไว้เก็บกระดูก นายลาบู...และจะมีการรื้อสิ่งปลูกสร้างที่ผิดกฎหมายอีกหลายรายการในวัดฯนี้...





นายลาบู....ผู้เอาเงินจากประเทศพม่า มาสร้างกุฏิ พระบ๊ะตาน ตามรูปที่ลงไว้นั้น.....ตายแล้ว หลังจาก  ผอ.เบาะแส ลงพื้นที่ ปราบ ขบวนการ อั่งยี่ แม่สอด........กะเหรี่ยงพม่า และโพสต์...ข้อความที่มาของเงินในการสร้างวัดภาวนานิยมาราม (ป่าเก่า) ให้ ผู้นำประเทศพม่า ทราบ




















28 / 3 / 2012

อะไร.......จะเกิดขึ้น .....?????
( What happen.....????? )






































































ติดตามต่อใน......



http://sekson-borsae.blogspot.com/2012/03/maesot-terrorist.html


ข้อมูลใหม่...จาก    หน่วยทหาร ฉก.ร.๔ 


http://www.4infreg.com/action/index.php?act=1209&Category=5






Pls. Wait...................

No comments:

Post a Comment