ผอ.เบาะแส....สวนมวย...นักข่าว ท้องถิ่น....???

ผอ.เบาะแส  สวนมวย นักข่าวท้องถิ่น...?
          เนื่องจากมีการลงข่าวใน นสพ.ท้องถิ่น หลายฉบับ ว่า...  ผอ.เบาะแส คือ  เบาะกระสือ.........นี่คือต้นเหตุของ
การตัดท่อน้ำเลี้ยง...ของนักข่าวท้องถิ่น....จังหวัดอื่น ๆ   
โปรด...รอคิว...???


กิจการค้าใดๆ  
ที่ลงโฆษณา กับ สื่อท้องถิ่น...ที่ลงข่าว เท็จ 
ใส่ความ ผอ.เบาะแส  หรือสื่อใน กลุ่มฯองค์กร เบาะแส  เราจะดำเนินการกับท่าน ทุกข้อหาความผิด เช่น การเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม-ภาาษีเงินได้ฯ ไม่ครบถ้วน (ถ้าจ้าง สนง.บัญชีทำให้ ส่วนใหญ่มีแน่ๆ) , ใบอนุญาต ต่างๆ , มีคนต่างด้าว ทำงาน โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือ ทำงานผิดประเภท , ให้ที่พักพิงคนต่างด้าว(ห้องเช่า-อาพาร์ทเมนท์) , รุกล้ำที่  กรมเจ้าท่า  กรณี ร้านอาหาร ชาย แม่น้ำ-ชายทะเล , สร้างอาคารผิดแบบ หรือ ขอใช้อาคารผิดประเภท(ห้างสรรพสินค้าที่นำเอาลานจอดรถให้ เช่าทำคาร์แคร์ หรือ ขายของ แผงลอย  เดิมๆ ท่านอาจจะเสียส่วยให้เจ้าหน้าที่....แต่เมื่อ เราดำเนินการ เจ้าหน้าที่จะไม่กล้ารับส่วย ....สุดท้าย ท่านก็....คงต้อง หยุดกิจการโดยปริยาย......
นี่คือ การ จัดการกับ สื่อที่ ลงข่าวเท็จ.....

“สื่อเบาะกระสือ” วาทกรรมสื่อรบสื่อ   

   

   เหตุเกิดเมื่อ   กรกฎาคม 24, ปี 2553

  ศึกษาข้อมูลได้ใน


http://www.sakhononline.com/weekly/?p=4&cpage=1#comment-127

“เสกสรร” แลกหมัด!

  

   ฟังความ ‘อีกด้าน’ ในสงครามสื่อ

เหตุเกิดเมื่อ  สิงหาคม 14, ปี 2553

  ศึกษาข้อมูลได้ใน


http://www.sakhononline.com/weekly/?p=26





ขอขอบคุณ สาครออนไลน์ ที่่ให้พื้นที่่  ลงเนื้อหาครบถ้วน......

กลุ่มฯเบาะแส..นำจับเรือเดินทะเลเถื่อน..ขายทอดตลาดได้ภาษีกว่า ๒ ล้าน

ผอ.เบาะแส จับเรือเดินทะเล

เถื่อน....สมุทรสาคร ได้ภาษีกว่า 2 ล้าน....???

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

“ ชายคนนี้ขอเคลียร์กับ ผอ.เสกสรร เขาไม่รู้ว่า..เบาะแส เคลียร์ไม่ได้..? ”

“ ต่อมา ผอ. เบาะแส ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยัง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๗ , ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร , อธิบดีกรมศุลกากร , อธิบดีกรมเจ้าท่า ”

“ รายที่ (12) 2,052,319 บาท รายนี้ได้ไป ในราคาที่ค่อนข้างสูงโดยฝีมือ ผอ.เบาะแส อีกตามเคย ”

“ วิธีการ แก้เผ็ด ไอ้พวกฮั้วประมูล แบบ เจ็บแสบจริง ”

“ ถ้าผอ.เบาะแส ไม่ วาง หมากไว้ รับรองถูกไอ้พวกฮั้วประมูล เอาไปกิน แน่...”

“ ข่าวดี ....นายด่านศุลกากรแจ้งว่าจะมีเงินรางวัลนำจับให้ ผอ.เบาะแส 30 % ของราคาที่ประมูลขายได้ และให้เจ้าหน้าที่ ที่ร่วมจับกุมเรืออีก 25 % แบ่งกัน ”

“ มีผู้ใหญ่บ้าน ชื่อ “ น ” และ กำนัน ชื่อ “ ฉ” ได้ติดต่อมายัง ทีมงานเบาะแส จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อขอเคลียร์ ”

วันที่ 11 มิ.ย 2553 บ่าย ผอ.เบาะแส ประสาน คุณนเรศ 02 667 7678 ฝ่ายสืบสวนปราบปราบกรมศุลกากร       กรุงเทพฯ     5 โมงเย็น เจ้าหน้าที่ศุลกากร มาตรวจสอบ เรือลำนี้ หน้าวัดป่าท่าทราย ข้างสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน วัดป่าท่าทราย อยู่ในเขต สภ.เมืองสมุทรสาคร แต่เรือ อยู่ในเขตตำรวจน้ำ สมุทรสาคร

               ต่อมา เช้า 12 มิ.ย 2553 ไฟไหม้เรือ เถื่อนลำนี้ พนักงานสอบสวน สภ.เมือง สมุทรสาคร มาตรวจสอบลงประจำวัน ผอ.เบาะแส ให้ พนักงานสอบสวน ตรวจสอบ เพื่อดำเนินคดี หากพบความผิด แต่พนักงานสอบสวน คนนั้น บอกว่า “ ไฟไหม้เฉยๆไม่มีอะไร”. พูดคนละภาษา หรือ มีอะไร อุดปากไว้
              17 มิ. ย. 2553 วันนี้ 10 โมงเช้า ผอ. เบาะแส ลุยจับ เรือเดินทะเล เถื่อน ขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 50 เมตร ที่ลักลอบนำเข้า ผิดกฎหมายเพื่อตัดเหล็กขาย โดยการจับกุมนี้ได้รับความร่วมมือ จาก พ .ต.ท. สนธยาฯ สารวัตรหัวหน้าตำรวจน้ำ สมุทรสาคร , ด่านศุลกากร แม่กลอง คุณวิภาสฯ พร้อมทีมเฉพาะกิจ เบาะแส อายัติ เรือส่ง ด่านศุลกากรแม่กลอง ดำเนินคดี พร้อมสืบสวนหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ ขั้นเด็ดขาดเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างต่อไป

              13 นาฬิกา ของวันที่ 17 มิ.ย. 2553 มีคนได้เบอร์มาจาก ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร โทร หา ผอ.เสกสรร และ ผอ. เบาะแส แจ้งเขาว่าอัดเทปไว้ แล้ว น๊ะ.. เขาบอกหมดว่าไม่ได้เสียภาษี ใคร ดูแล ใคร เคลียร์ใคร หาเงินให้ ใครและมีการบอกตำรวจน้ำ ยศ สิบตรี แล้ว แต่ เขาก็ไม่ทำอะไร ให้เขาตัดได้ (ไม่รู้สารวัตรรู้หรือไม่) ชายคนนี้ขอเคลียร์กับ ผอ.เสกสรร เขาไม่รู้ว่า..เบาะแส เคลียร์ไม่ได้..? ตรวจสอบ จาก dtac ได้ เวลา เกือบ 13 นาฬิกา 089 9107527 ชื่อสมชาย แก่นจัน โทรมา และตามวิธีการของ กลุ่มฯเบาะแส เราสามารถสืบสวนหาข้อมูลผู้เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาลงโทษได้จาก
1. เจ้าอาวาสวัดป่าท่าทราย อ.เมือง สมุทราสาคร
2. มักทายก วัดนี้
3. ผู้ใหญ่ ชื่อวิโรจน์
4. ชาวบ้านใกล้เคียง จะทราบหมดว่าใครนำเข้าไม่เสียภาษี
               

               ต่อมามีผู้ใหญ่บ้าน ชื่อ “ น ” กำนัน “ ฉ ” ติดต่อ คนของ เบาะแส ขอเคลียร์ กับ ผอ.เบาะแส เขาคุยใหญ่โต ว่า ยังไงก็เคลียร์ ได้ จะง่ายหรือยากเท่านั้นเอง ไม่รู้ ผอ.เบาะแส เคลียร์ไม่ได้ ...????

               17 มิถุนายน 2553     ผอ.เบาะแส ยื่น หนังสือ ให้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และ ศุลกากร ตรวจสอบ สืบสวน สอบสวน ร่วม เจ้าหน้าที่ ตำรวจ สมุทรสาคร หาตัวผู้กระทำผิดกฎหมาย ทุกคน มาดำเนินคดี และ จะมีการขายทอดตลาด เรือ ประมาณ กลางเดือน กรกฎาคม 2553 เพื่อนำเงินจากการขาย เข้ารัฐ
                วันที่ ผอ.เบาะแส เข้า เยี่ยม นายด่านศุลกากร แม่กลอง จึงรู้ว่ามี ข่าวดี ..... นายด่าน ศุลกากร แจ้งว่าจะมีเงิน รางวัลนำจับให้ ผอ.เบาะแส 30 % ของราคาที่ประมูลขายได้ และให้ เจ้าหน้าที่ ที่ร่วมจับกุมเรืออีก 25 % แบ่งกัน ตำรวจชั้นผู้น้อย ทราบเรื่อง ดีใจเป็นแถว เพราะ ไม่เคยมีเรื่อง อย่างนี้ ปรากฏในสารบบ เมืองสมุทรสาคร

                 แปลก แต่ จริง ปราบมาเฟียรถตู้ เก็บ ภาษี เข้า กรมสรรพากร หลักล้าน บาท ไม่มีรางวัล แต่ จับเรือเดินทะเลเถื่อน ได้รางวัล นำจับ ...น่าคิด....????

                

                และแล้วก็ มีการ ประกาศ ขายเรือเดินทะเลเหล็กที่ กลุ่มฯ เบาะแส นำจับ ได้ที่หน้าวัดป่าท่าทราย สมุทรสาครด้วย โดยที่หนังสือพิมพ์เบาะแส เป็นกลุ่มองค์กร ที่ตั้งขึ้นเพื่อจัดการเกี่ยวกับ การปราบ ส่วย การฮั้วประมูล การคอรัปชั่นของข้าราชการ , นักการเมือง พฤติกรรมนักข่าวรีดไถ และ มาเฟียเก็บค่าคุ้มครอง โดยมุ่งหวัง....เพื่อประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม โดยใช้หนังสือพิมพ์ เบาะแส เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือในการทำงาน ซึ่งมีผลงาน เด่น เช่น งานล้างวัดโสธร..โค่นเจ้าพ่อแปดริ้ว , งานปิดฉากแม่ชีคนดังอยุธยา อ้างเป็นแม่นม...เบื้องสูงหาประโยชน์ และ งานปราบมาเฟียรถตู้ นาย พล.ป.... ทำนาบนหลังคน....? ปัจจุบันกรมสรรพากรได้มีการเก็บภาษีจากมาเฟียรถตู้ เข้ารัฐแล้วหลักล้านบาท ซึ่งเป็นผลงานของ กลุ่มฯเบาะแส และจากกรณี วันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๓ กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ เบาะแส ได้รับแจ้งข้อมูลร้องเรียน เกี่ยวกับเรือเดินทะเล จำนวน ๑ ลำ ชื่อ ENTERPRISE 58 260 F ยาวประมาณ ๕๐ เมตร ได้ถูกลากจูงมาจอดไว้หน้าวัดป่าท่าทราย เขต ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง สมุทรสาคร เป็นเวลา มากกว่า ๑๕ วัน และตัดเหล็กเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาตและเจตนาหลีกเลี่ยง ภาษี ศุลกากรและภาษีอื่นๆ ซึ่งเช้าวันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๓ ก็เกิด ไฟไหม้เรือลำดังกล่าว เจ้าหน้าที่ดับเพลิง จึงได้เข้าดับไฟ พนักงานสอบสวน ในขณะนั้นได้ลงประจำวันไว้ ต่อมา วันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๓ กลุ่มฯเบาะแส ได้ประสานงาน นายด่านศุลกากรแม่กลองและนำตำรวจน้ำ พ.ต.ท.สนธยาฯ และ นายด่านศุลกากรแม่กลอง (คุณ วิภาส รุจนากร) เข้าตรวจสอบและยึดเรือลำดังกล่าวเพื่อเก็บภาษีเข้ารัฐและดำเนินคดีกับเจ้าของเรือและผู้ร่วมกระทำผิดทุกคน และต่อมา เวลาประมาณ ๑๓.๐๐ น. ได้ มี โทรศัพท์หมายเลข 089 910 7527 อ้างว่าชื่อ สมชาย แก่นจัน โทรมาขอเคลียร์ ผอ.เบาะแส ต่อมาได้มีผู้ใหญ่บ้าน ชื่อ “ น ” และ กำนัน ชื่อ “ ฉ ” ได้ติดต่อมายัง ทีมงานเบาะแส จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อขอเคลียร์ เช่นกัน ซึ่งบุคคลกลุ่มฯนี้คงไม่รู้ว่า เบาะแส เคลียร์ไม่ได้              และ ต่อมา ผอ. เบาะแส ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยัง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๗ , ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร , อธิบดีกรมศุลกากร , อธิบดีกรมเจ้าท่าฯลฯ สืบสวนสอบสวน ทั้งเรื่อง พยานบุคคล , พยานแวดล้อมและ พยานหลักฐานต่างๆ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกฉบับ กับผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องทุกคน จนกว่าคดีจะถึงที่สุด                 

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๗ มอบประกาศเกียรติคุณ

                 ในวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ตั้งแต่เวลา ๑๑.๐๐ น. ถึงเวลา ๑๓.๐๐ น. เปิดซองเวลา 13.30 น. ได้มีผู้ยื่นซองประมูลราคา ที่ สำนักงานศุลกากรภาคที่ 1 ฝ่ายบริการศุลกากรเอกชัย ด่านศุลกากรแม่กลอง เลขที่ 79/3 หมู่ที่ 1 ถนนเอกชัย ตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร โทร. 034 861 037 ผู้ใดให้ราคาสูงสุด เป็นผู้ได้ซื้อและต้องวางมัดจำร้อยละ 25 ของราคาที่ประมูลได้ ส่วนที่เหลือชำระภายใน 15 วัน โดยแคชเชียร์เช็คสั่งจ่าย “ กรมศุลกากร (พักรายได้) โดย...................”

                วันประมูล มีเรื่อง ฮั้วกันแปลกๆ ราคาที่ควร ไม่น่าจะต่ำกว่า 1,500,000 บาท เหล็กประมาณ 300 ตัน อย่างต่ำ กิโลกรัมละ 5 บาท แต่ พวกนี้ ยื่น ราคา 300,000 , 500,000 บาท ถ้า ผอ.เบาะแส ไม่วาง หมากไว้ รับรองมีหวังถูกไอ้พวก ฮั้วประมูล เอาไปกิน แน่ ราคาที่ประมูล มีดังนี้ (1) 300,000 (2) 500,000 (3) 556,555 (4) 1,010,000 (5) 1,150,000 (6) 1,500,000 (7) 1,610,500 (8) 1,865,599 บาท สุดท้ายในวันนั้น มีผู้ประมูลได้ไปในราคา ประมาณ 1,865,599 บาท แต่รอแล้วรอเล่า ผู้ซื้อไม่นำเงินมาวางมัดจำ 25 % จึงเป็นอันต้องยกเลิกไป

                 และต่อมา ได้มีการประมูลใหม่ ในวันที่ 6 สิงหาคม 2553 โดยในครั้งนี้ ต้องวางเงินซื้อซองประมูล คนละ 100,000 บาท มีราคาประมูล ดังนี้ คือ ราคามีแตกต่าง รายที่ (1) 350,000 (2) 400,000 (3) 450,000 (4) 500,000 (5) 510,000 ( 6) 527,500 (7) 625,000 (8) 711,000 (9) 1,280,000 (10) 1,350,000 (11) 2,051,999และรายที่ (12) 2,052,319 บาท รายนี้ได้ไป ในราคาที่ค่อนข้างสูง......โดยฝีมือ ผอ.เบาะแส อีกตามเคย อยากรู้โทรมาถามส่วนตัวท่าน ผอ.ได้ เพราะ ท่านมีวิธีการ แก้เผ็ด ไอ้พวกฮั้วประมูล แบบ เจ็บแสบจริง ดูได้จากราคา ที่ปรากฏออกมา/.

มีข้อมูลเพิ่ม........................

กลุ่มฯเบาะแส...ช่วยหญิงชราถูกทอดทิ้ง...สู่ บ้านพักคนชรา บ้านบางแค.....

ปัจจุบัน...หญิงชราผู้นี้  ได้พำนักที่บ้านพักคนชราบ้านบางแคเรียบร้อยแล้ว


กลุ่มฯเบาะแส โดย ผอ.เสกสรร ประเสริฐ ขอขอบคุณ...ในความเมตตาที่ผู้บริหาร บ้านบางแค มอบให้...จากใจจริง.

 “ ชาวบ้านแจ้ง ผอ.เบาะแส  ก่อนเที่ยงของวันนั้น  ผอ.เสกสรร นำทีม เบาะแส ลงพื้นที่  บ่าย ๓ โมง ” 

“ คุณยายช่วยตัวเองไม่ได้ นอนจมกองอุจจาระ ปัสสาวะ เหม็นคลุ้ง ไปทั่วบริเวณ ”

 

“ ท่าน ผอ.บ้านคนชราบางแค  ท่านก็เมตตา รับไว้   กลุ่มฯเบาะแส  ไม่มีสิ่งใดจะกล่าว นอกจากคำว่า ขอบคุณ ”

บรรยากาศ กลุ่มฯเบาะแสลงพื้นที่  เข้าช่วยหญิงชรา.......ถูกทอดทิ้ง    

            ผอ.เบาะแส รับร้องทุกข์ จากชาวบ้าน ว่าในซอยอิสรภาพ ๒๘  เขตบางกอกใหญ่    กรุงเทพฯ    ว่ามีหญิงชรา อายุ ๖๐ กว่า นอนเป็น อัมพาต อยู่ในบ้าน ที่ถูกลูกหลานทอดทิ้งนานนับเดือน  คุณยาย จ.  อยู่ในสภาพที่อิดโรย อาหาร ก็ มีเพียงชาวบ้านใกล้เคียงสงสาร  นำมาให้ คุณยายช่วยตัวเองไม่ได้ นอนจมกองอุจจาระ ปัสสาวะ เหม็นคลุ้ง ไปทั่วบริเวณ  กลางคืนมีเสียงร้องโหยหวน เป็นปกติ  จนบางครั้งผู้คนผ่านไปมาเข้าใจผิดคิดว่าเป็น ผีสาง  ชาวบ้านแจ้ง ผอ.เบาะแส  ก่อนเที่ยงของวันนั้น  ผอ.เสกสรร นำทีม เบาะแส ลงพื้นที่  บ่าย ๓ โมง  พร้อม เชิญให้ เจ้าหน้าที่ฯ ของเขตบางกอกใหญ่ และเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ลงพื้นที่  เลขาฯกลุ่มฯเบาะแส และ เลขาฯ มูลนิธิ เบาะแส ประสานติดต่อรถพยาบาล โรงพยาบาลตากสิน   มารับตัวไปรักษา   วันนั้น เราเห็นมือท่าน  ผอ.เบาะแส   ของเราเปื้อน ไปด้วย อุจจาระคุณยาย....????      

            

คุณเอก เบาะแส คุณนริส เบาะแส และอีกหลายๆท่านก็ลงพื้นที่งานนี้ด้วย

คุณเมย์..เบาะแส...ลงงานนี้ด้วย   

                  ๒ วันผ่านไป  อาการคุณยายดีขึ้น พูดได้ดีมาก  ขยับร่างกายได้ดี  เริ่มทำกายภาพบำบัด ขณะนี้ คุณยาย ยังอยู่โรงพยาบาลตากสิน   แต่อาการดีขึ้นมากแล้ว   ต่อมา  ผอ.เสกสรร ประเสริฐ  ประธานที่ปรึกษามูลนิธิ เบาะแส  ได้ทำหนังสือ ฝากตัวไปยังบ้านพักคนชราบางแค  ขอความ อนุเคราะห์ เพื่อให้คุณยายได้ พักอยู่ เพราะไม่มีลูกหลานดูแล   ท่าน ผอ.บ้านคนชราบางแค  ท่านก็เมตตา รับไว้   กลุ่มฯเบาะแส  ไม่มีสิ่งใดจะกล่าว นอกจากคำว่า ขอบคุณ   ทุกๆ ที่ร่วมมือรักษา รับดูแล คุณยายซึ่งหมดญาติขาดที่พึ่ง  คนไทยด้วยกันช่วยกัน.....ดูแลกัน  น่ารักมากครับ....????   ประการสำคัญชาวบ้านแจ้งว่า ร้องเรียนไปหลายที่ แต่ไม่มีใครมาดำเนินการ    น่าตัดเงินเดือนจากภาษีฯ ทิ้งน๊ะจะบอกให้....????  ที....หาเสียงแล้วมา  ประชาชนถูกทอดทิ้งไม่ยอมมา....?????

๑๙  มกราคม  ๒๕๕๕   บ้านพักคนชรา บ้านบางแค ได้รับคุณยาย ไว้ในความดูแลเรียบร้อยแล้ว

บทสรุป สื่อฯ...นำเรื่องจริงส่วนน้อย ผสมเรื่องเท็จส่วนใหญ่...ลงข่าวใส่ความ ผอ.เบาะแส (นี่คือแผนล่อเสือ..ออกจากถ้ำ ต่อด้วยเชือดไก่....ให้ลิงดู)

หนังสือพิมพ์ ธงธรรม ลงข่าว....หลายฉบับ ในช่วงที่  ผอ.เบาะแส  ลงพื้นที่ ล้างวัดโสธร....โค่นเจ้าพ่อแปดริ้ว  และ ปิดฉากแม่ชีคนดังอยุธยา อ้างเบื้องสูง หาประโยชน์....???  

ช่วงปลายปี พ.ศ. ๒๕๔๗ - ปี พ.ศ.๒๕๕๐

บทสรุป สื่อฯ.....นำเรื่องจริงส่วนน้อย ผสมเรื่องเท็จส่วนใหญ่...ลงข่าวใส่ความ ผอ.เบาะแส 

(นี่คือแผนล่อเสือ..ออกจากถ้ำ ต่อด้วยเชือดไก่....ให้ลิงดู)

นี่คือ บทสรุป...............ยังมีอีกหลายคำพิพากษา....รอชม...???

ผอ.เบาะแส เข้าเป็นโจทก์ร่วม  สืบพยานเอง ซักพยานเอง......

สรุป..ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๒๘

ยกฟ้องเฉพาะพระราชบัญญัติการพิมพ์ แต่ตาม กฎหมายอาญามาตรา ๓๒๘ ต้องรับโทษเหมือนเดิม